"คนตายมาเข้าฝันผมหลายครั้ง เธอบอกใช้ผมช่วยแจ้งตำรวจจับไอ้เสือที่เป็นคนฆ่าเธอ ผมรู้จักไอ้เสือดีเพราะผมกับมันเป็นเพื่อนกัน ตอนแรกก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของมัน แต่พอคนตายมาเข้าฝันบ่อยเข้าจึงเกิดความกลัว เลยตัดสินใจเข้าให้เบาะแสตำรวจ"
คือคำให้การของพยานปากสำคัญที่เป็นกุญแจไขไปถึง "ไอ้เสือ" คนร้ายที่ลงมือสังหาร น.ส.ภานุภัณฑ์ จันสิง อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาการจัดการ สาขาบริหารทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เสียชีวิตในคอนโดฯ ย่านวังทองหลาง เมื่อตอนค่ำวันที่ 4 ส.ค. ปีก่อน
คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม!?!
"ภานุภัณฑ์" ถูกฆ่าโดยใช้สายเตารีดมัดที่คอและใช้ผ้าอุดปาก ก่อนที่คนร้ายจะขนเอาทรัพย์สินเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือของเหยื่อหลบหนีไป
คดีนี้ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิด แต่เพียงเท่านั้นยังไม่สามารถบอกรายละเอียดอะไรได้ เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงเอารูปคนร้ายไปหาเบาะแสตามแหล่งต่างๆ ที่น่าจะให้คำตอบได้ จนกระทั่งไปได้เบาะแสสำคัญจากเพื่อนคนร้ายที่โทร.มาบอกเบื้องหลังการตาย และชี้เป้าบอกชื่อเสียงเรียงนามคนร้าย
ฆาตกรเลยหนีไม่พ้นเงื้อมมือกฎหมาย
ย้อนไปดูการตายของน.ส.ภานุภัณฑ์ ถูกคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปสังหารยังห้องพักของเธอ ที่ห้อง 307 อาคาร 96 คอนโดฯ ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 96 แขวงและเขตวังทองหลาง โดยคนร้ายฉวยโอกาสทีเผลอ ผลักประตูเข้าไปทำร้ายร่างกาย ใช้สายไฟเตารีดรัดคอและใช้ผ้าอุดปากไว้ เพื่อไม่ให้เหยื่อส่งเสียงร้อง จนขาดอากาศหายใจตาย ก่อนที่จะขนเอาเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อคอมแพค กับโทรศัพท์มือถือของเหยื่อติดมือไป
อาถรรพ์ฆาตกรรม รวบมือฆ่าน.ศ.ราชภัฏ ผีสาวนำจับคนร้าย
"ภานุภัณฑ์"กลายเป็นศพหมกห้องอย่างสยดสยอง!!
หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผกก.(ปป.) พ.ต.ท.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี สว.สส. ร.ต.ท.ชัยวัฒน์ อนันต์พันธ์ รอง สว.ฯ รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่างานนี้เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ข้าวของในห้องถูกรื้อค้นกระจาย โดยคนร้ายไม่ได้งัดประตูเข้าไป เพราะไม่มีร่องรอยงัดแงะ ตำรวจจึงเก็บลายนิ้วมือแฝงและสอบพยานไว้
ประสานเจ้าของคอนโดฯ ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที
ภาพที่มีอยู่ในกล้อง ปรากฏร่างคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สูง 170 ซ.ม. นุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อยี่ห้อพูม่า ด้านหลังสกรีนเลข 10 ติดไว้ เดินวนไปวนมาอยู่แถวชั้น 3 ชั้น 4 ใกล้ห้องผู้ตาย ก่อนที่จะแสดงอาการลุกลี้ลุกลนเดินออกจากคอนโดฯ ไป ซึ่งชายคนนี้ไม่เคยมีใครเห็นหน้ามาก่อน นั่นแสดงว่าคนร้ายจะต้องเป็นคนนอก ที่เดินตามคนในคอนโดฯ ตอนรูดคีย์การ์ดผ่านประตูเข้าไป
ตำรวจจึงนำภาพคนร้ายไปหาเบาะแส
เจ้าหน้าที่นำภาพชายใส่เสื้อเบอร์ 10 ไปขอความร่วมมือรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" ให้ช่วยหาข้อมูล แต่ทว่าทุกอย่างก็เงียบหายไปนานเกือบปี จนกระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 52 ตำรวจก็ได้รับข่าวดีจากพยานปากสำคัญ ที่อ้างตัวเป็นเพื่อนสนิทของ "ไอ้เสือ" หรือชื่อจริงคือนายธรรมชัย พันธุ์ฟัก อายุ 29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 198 ซอยลาดพร้าว 87 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง ที่เข้าให้การว่าคนร้ายที่สังหารน.ส.ภานุภัณฑ์ก็คือไอ้เสือนั่นเอง
พยานรู้เพราะก่อนหน้านี้ไอ้เสือ เคยเอาโน้ตบุ๊กกับโทรศัพท์มือถือฝากให้ไปจำนำ และได้เห็นภาพคนร้ายใส่เสื้อเบอร์ 10 ในรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" จึงจำเสื้อตัวนี้ได้อย่างแม่นยำ เพราะไอ้เสือชอบใส่เป็นประจำ
แค่เห็นข้างหลังก็จำได้ว่าเป็นมัน!!?
แต่สิ่งที่ทำให้พยานต้องขนลุกจนต้องรีบเข้าพบตำรวจ ก็คือเหตุพิลึกพิลั่นที่ฝันถึงน.ส.ภานุภัณฑ์บ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน ก่อนหน้านี้เคยเห็นแต่ในข่าวเท่านั้น โดยน.ส.ภานุภัณฑ์มาบอกให้พยานไปแจ้งเบาะแสกับตำรวจ ให้ไปจับไอ้เสือ จึงทำให้พยานเกิดภาพหลอนและหวาดกลัวจนต้องรีบเข้าให้ปากคำ
เปิดโฉมหน้าฆาตกรนับแต่บัดนั้น!!
หลังรู้เป้าหมายคนร้าย วันที่ 17 พ.ค. พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติออกหมายจับไอ้เสือ หรือนายธรรมชัยทันที ก่อนที่จะตามจับกุมได้ที่ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขณะกำลังหลบหนี จึงพามายึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือกับคอม พิวเตอร์โน้ตบุ๊กนำตัวมาดำเนินคดี
ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายทันที
คนร้ายให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุเข้าไปภายในอาคาร 96 คอนโดเพื่อไปหาเพื่อนชื่อนายเหลา แต่ไม่พบ และไม่สามารถเข้าอาคารได้ เพราะไม่มีคีย์การ์ดเปิดประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายเปิดประตูเข้าไปพอดี จึงตามไป โดยน.ส.ภานุภัณฑ์ กดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้น 3 ส่วนตนเดินขึ้นบันไดตามไปทัน และเดินผ่านห้องผู้ตายพอดี พบว่าห้องไม่ได้ล็อกประตู จึงเหลือบไปเห็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเหยื่อวางอยู่ โดยที่น.ส.ภานุภัณฑ์นั่งหันหลังอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า จึงบุกเข้าไปหวังขโมยทรัพย์สิน แต่ผู้ตายหันมาเห็นแล้วร้องตะโกนให้คนช่วย จึงจับมัดมือใช้ผ้าอุดปากแล้วใช้มือบีบคอ พันซ้ำด้วยสายเตารีด ก่อนหอบทรัพย์สินหลบหนี
"ไม่คิดว่าเธอจะถึงตาย ผมกราบขอโทษครอบครัวเธอด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เสียชีวิต" ไอ้เสือกล่าวทิ้งท้าย
หลังบันทึกปากคำคนร้าย ตำรวจนำตัวนายธรรมชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังอาคาร 96 คอนโดฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจมุงดูจำนวนมาก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบพบว่านายธรรมชัย เคยก่อคดีข่มขืนมารดาของเพื่อน แต่นายธรรมชัยให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบ ถ้าดีเอ็นเอตรงกับที่พบในผู้เสียหายจะโดนดำเนินคดีอีกข้อหา
แค่คดีฆ่าก็ไม่รู้จะได้ออกจากคุกเมื่อไหร่!!?