พรทิพย์ลุยสอบที่มา คอนเทนเนอร์ ก้นทะเลแสมสาร

วานนี้ (20 พ.ค.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

กล่าวถึงการตรวจสอบหาที่มาของตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเลอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  ว่า ได้ประสานกับเจ้าของกิจการตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ย่านลาดกระบัง เพื่อเดินทางไปตรวจสอบและศึกษารายละเอียดกับตู้คอนเทนเนอร์ในแง่มุมต่างๆ เพื่อหารือถึงลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสารพิษ พร้อมทั้งที่มาที่ไปของตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเล เพราะการลงทะเลดำน้ำพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ครั้งต่อไป ต้องมีข้อมูลให้รอบด้าน 

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ได้ส่งฟองน้ำที่เก็บจากบริเวณตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไปตรวจหาสารกัมมันตภาพรังสี เพื่อพิสูจน์อีกช่องทางว่าในตู้คอนเทนเนอร์มีสารพิษหรือไม่  

ด้านนายกิตติศักดิ์ ฤทธิเดช ตัวแทนบริษัทฮาแพค ลอยด์(ประเทศไทย) กล่าวว่า การตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่จมอยู่ก้นทะเลอ่าวแสมสาร ค่อนข้างลำบาก

เพราะประตูด้านหน้าจมฝังอยู่ในทราย จึงยังไม่เห็นว่าตรงประตูตัวหนังสือ 4 ตัว ซึ่งระบุบริษัทเจ้าของจะจางหายไปหรือไม่ หรือตรงมุมตู้ด้านซ้ายขวาจะมีสลักเขียนเบอร์ตู้ไว้เป็นเลข 7 หลัก โดยตัวเลขจะบอกรุ่นของตู้และบอกสถานที่ผลิต หากเคลียร์สองจุดนี้ได้ ก็จะรู้ว่าเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นใคร แต่คงไม่สามารถตรวจสอบว่าภายในมีสารพิษหรือไม่ หากจะสังเกตถ้าเป็นตู้คอนเทนเนอร์ใส่สินค้าส่งออกจะมีสลักคล้องประตู แต่ถ้าเป็นตู้มือสองอาจมีกุญแจหรือโซ่ล็อกแทน 

ส่วนการผลิตตู้คอนเทนเนอร์นั้น นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อมาจากเมืองนอก โดยเฉพาะเมืองจีน

ถ้าเป็นตู้มือสองราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพเหล็ก ประเมิน 40,000-50,000 บาท ตู้คอนเทนเนอร์ที่พบน่าจะไม่อายุไม่น้อยกว่า 15 ปี ซึ่งขณะนั้นในเมืองไทยมีโรงงานผลิตตู้คอนเทนเนอร์อยู่พักหนึ่งในปี 2535 ย่านบางนา แต่ปัจจุบันไม่มีผลิตในเมืองไทยแล้ว