เค้นญาติปมมรดก ฆ่าแขวนคอ2ดญ.

เตรียมออกหมายจับคนร้ายฆ่าแขวนคอ 2 ด.ญ. ผู้การฯ สงขลาสอบเค้น 3 ผู้ต้องสงสัย เป็นญาติของผู้เสียชีวิต นำตัวมาตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง ระบุมุ่งปมเดียวมรดกเลือด

เพราะ มีร่องรอยคนร้ายรื้อค้นเอกสารภายในบ้าน แต่เด็กตื่นมาพบเลยต้องฆ่าปิดปากทั้งคู่ สอด คล้อง กับเรื่องที่แม่ของหนูน้อยทั้ง 2 มีเรื่อง ฟ้องร้องมรดกอยู่กับญาติบางคน เชื่อเป็นการ อำพรางเป็นชิงทรัพย์ ขณะที่ตายายยังรับไม่ได้ที่สูญเสียหลานสาวพร้อมกัน 2 คน ชาวบ้านต้องแห่ปลอบใจ

จากคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายฆ่าแขวนคอ ด.ญ.อภิสา ทาศรี อายุ 12 ปี และด.ญ.อรวรรณ ทาศรี อายุ 7 ขวบ สองพี่น้อง

ภาย ในบ้านพักเลขที่ 11 หมู่ 5 บ้านเกาะหมี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเด็กทั้งสองคนอยู่กับนางเรียม บิลยะแม อายุ 31 ปี มารดา โดนคนร้ายใช้เชือกไนลอนผูก คอไว้กับคานหลังบ้าน นายเขม บิลยะแม อายุ 60 ปี และนางไร บิลยะแม อายุ 58 ปี ตาและยายของเด็ก กลับจากกรีดยางมาพบศพจึงรีบแจ้งตำรววจ เบื้องต้นพบว่าทรัพย์สิน หายไปมีเงินสดหมื่นบาทเศษ สร้อยทองคำหนัก 2 บาท เบื้องต้นสงสัยปมปล้นทรัพย์แล้วคนร้ายกลัวเหยื่อจำหน้าได้ กับประเด็นเรื่องขัดแย้งมรดกที่ดิน ซึ่งนางเรียมมีปัญหาฟ้องกับญาติบางคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พ.ต.อ.ดำรงค์ วัฒโนดร รองผบก.ภ.จว.สงขลา หัวหน้าชุดสืบสวน ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนของตำรวจภูธร จ.สงขลา

ร่วมกับชุดสืบสวนของสภ.หาด ใหญ่ เพื่อคลี่คลายคดีและประมวลเหตุการณ์ และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่ได้จากจุดเกิดเหตุและสรุปแนวทางการสอบสวนคลี่ คลายคดีพล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว. สงขลา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนเชิญผู้ต้องสงสัย 3 คน ซึ่งเป็นญาติของเด็กหญิงทั้งสองคนมาสอบสวน พร้อมกับตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงของผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนเอาไว้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลตรวจอีกระยะหนึ่ง

พล.ต.ต.วิรุฬกล่าวว่า จากผลการสอบสวน พยานแวดล้อมเจ้าหน้าที่พบเบาะแสสำคัญว่าน่าจะมีผลพวงมาจากแม่ของเด็กทั้งสองคน

เนื่องจากทราบว่ากำลังมีเรื่องฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาลกับญาติๆ เกี่ยวกับมรดกที่ดินที่พบมีการปลอมลายมือชื่อในเอกสาร ซึ่งสอดคล้อง กับสภาพที่เกิดเหตุที่คนร้ายพยายามรื้อค้นเพื่อหาเอกสารบางอย่าง แต่ระหว่างนั้นเด็กทั้งสองคนตื่นขึ้นมาพบจึงลงมือฆ่าปิดปากอย่างโหดเหี้ยมมากกว่าที่จะเป็นการปล้นฆ่าธรรมดา แม้ว่าเงินสดและทองรูปพรรณจะหายไปด้วยก็ตาม และเจ้าหน้าที่มั่นใจว่ากลุ่ม คนร้ายน่าจะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ ซึ่ง จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน จากผู้ต้องสงสัยและสอบสวนผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยทั้งหมดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่บ้านของ ด.ญ.อภิสา และด.ญ.อรวรรณ เลขที่ 11 หมู่ 5 บ้านเกาะหมี ต.คลองแห ยังคงเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

โดยเฉพาะนางไร บิลยะแม อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นยายยังทำใจไม่ได้กับการ สูญเสียหลานสาวทั้งสองคนไปอย่างกะทัน หัน นั่งซึมเศร้าและร้องไห้ตลอดเวลา ต้องมีญาติๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีเพื่อนบ้านเดินทางมาเยี่ยมเยียนเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนในครอบครัว นอกจากนี้ ญาติๆ ได้เตรียมตั้งเต็นท์บริเวณบ้านพักเพื่อทำบุญ 7 วันอุทิศส่วนกุศลให้กับเด็กทั้งสองคน สำหรับศพของ 2 พี่น้อง ญาติได้ทำพิธีทางศาสนาโดยการฝังรวมกันในหลุมเดียว กันที่สุสานบ้านเกาะหมีเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้าวันนี้ได้มีพิธีสวดดุอาว์ขอพรให้ทั้งสองคน โดยมีนายเฉม บิลยะแม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นตา นั่งเฝ้าหลุมศพของหลานสาวด้วยความอาลัย

ขณะที่ชาวบ้านเกาะหมีต่างอยู่ในอาการสะเทือนใจกับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหี้ยมโหดของคนร้ายที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กน้อย

สำหรับ ด.ญ.อรวรรณ อายุ 7 ขวบ กำลังจะเข้าเรียนชั้นป.1 ที่โรงเรียนบ้านเกาะหมีในช่วงเปิดเทอมนี้เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.วิรุฬกล่าวว่า การสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 3 คน เป็นประ โยชน์กับคดีมาก อีกทั้งพร้อมสอบพยานแวดล้อมและตรวจหลักฐานของคนร้ายที่ทิ้งร่องรอยไว้ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ยังรอผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงจากกองวิทยา การ 12 มายืนยัน เพื่อขออนุมัติจากศาลออกหมายจับ คาดว่าจะจับกุมคนร้ายในเร็วๆ นี้ ขณะนี้ได้ให้ตำรวจตามประกบตัวผู้ต้องสงสัย 3-4 คนอยู่แล้ว