เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.ท. เฉลิมยศ หอมสกล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์
รับแจ้งเหตุนั่งร้านอาคารก่อสร้างโรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัตนาธิเบศร์ ในเครือเมเจอร์ซีนี เพล็กซ์ ด้านหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขารัตนา ธิเบศร์ แยกแคราย หมู่ 8 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พังถล่มทับคนงาน มีผู้ติดอยู่ในซากอาคารหลายราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร พ.ต.อ.สุพจน์ เกษม ไชยนันท์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท. ธนาพัฒน์ นิลบดี รองผกก.สส. เจ้าหน้าที่วิทยา การ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าปากทางเข้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ด้านถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งกำลังก่อสร้างโรงภาพยนตร์ขนาดสูง 7 ชั้น
จุดเกิดเหตุอยู่กลางห้างมีนั่งร้านเหล็กและเศษปูนจำนวนมากพังทลายลงมากองกันเป็นภูเขา เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนำตัวคนเจ็บจำนวน 4 คน ส่งร.พ.พระนั่งเกล้า ทราบชื่อคือ นายโชคชัย นุสนธิ อายุ 39 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 41 หมู่ 16 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีก 3 คน คือ นายอาหื่อ นาเยอะ อายุ 45 ปี นายอาบือ เยเซกู อายุ 40 ปี และนายอาทู ไม่ทราบนามสกุล อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินรักษาจนอาการพ้นขีดอันตราย
ต่อมา นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ. นนทบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู รองผวจ. นาย พงศา ศุภจริยาวัฒน์ นายอำเภอเมืองนนทบุรี และนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รุดไปที่เกิดเหตุ
พร้อมด้วยรถดับเพลิงของเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ปูนแข็งตัว เนื่อง จากทราบว่ามีคนงาน 3 คน ถูกฝังทั้งเป็นอยู่ในซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและหน่วยกู้ภัยนนทบุรี นำถังแก๊สตัดเหล็ก 2 เครื่องมาตัดถ่าง และขุดเจาะเหล็กนั่งร้านรวมทั้งเศษปูนซีเมนต์ที่เริ่มแข็งตัว ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากนั่งร้านเหล็กมีจำนวนมาก อาจพังครืนลงมาได้จึงต้องค่อยๆ ใช้เครื่องตัดเหล็กตัดออกทีละชิ้น ขณะที่อีกส่วนต้องใช้เครื่องเจาะหิน เจาะชิ้นส่วนปูนซีเมนต์ออกอย่างทุลักทุเล
นายโชคชัย คนงานที่รอดตายราวปาฏิหาริย์ กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุพวกตนกำลังเทคอนกรีตเสริมพื้นและคานอยู่ที่บริเวณก่อสร้างชั้นที่ 4 ต่อมาได้ยินเสียงนั่งร้านดังเอี๊ยดอ๊าด
จากนั้นก็พังครืนลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเนื้อปูนที่เตรียมผสม จนตนเองกับเพื่อนคนงานร่วงหล่นลงมา ดีที่ตนคว้าราวเหล็กนั่งร้านไว้ได้ ส่วนเพื่อนคนงานที่หนีไม่ทันหล่นลงมาก็ถูกเหล็กนั่งร้านและปูนที่ผสมเสร็จแล้วถมทับจนมิดไปต่อหน้าต่อตา คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากคานรับน้ำหนักพื้นปูนไม่ไหวจึงถล่มลงมา
สำหรับคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากโครงเหล็ก ทราบชื่อต่อมาคือ นายเสถียร เกตุบุตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 2 ต.อุทัยสว่าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายอาจ่าง อาราช อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.6 ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนายคำแสน ยาราช อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.16 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี คาดว่าทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตแล้ว
สรุปตึกก่อสร้างถล่ม-ฝัง3คนงานดับสยอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการค้นหาผ่านไปนานกว่า 8 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ขุดเจาะซากปูนและเศษเหล็กนั่งร้านออก
จนกระทั่งพบส่วนเท้าของคนงานสวมรองเท้ายางที่ใส่ทำงานโผล่ขึ้นมาเป็นศพแรก จึงรีบขุดซากปูนออกจนสามารถนำศพออกมาได้ ในสภาพถูกทับจนแหลกเหลว มีเศษปูนติดอยู่เต็มตัว ในตัวพบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ระบุชื่อนายอาจ่าง ส่วนศพที่ 2 ถูกเศษปูนฝังเกือบมิด เมื่อนำขึ้นมาได้พบว่าคือนายเสถียร สภาพศพถูกปูนที่แข็งตัวจับจนขาวโพลนเป็นที่น่าอนาถ
ส่วนรายที่ 3 คือนายคำแสน หลังค้นหาหลายชั่วโมงยังไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงหยุดค้นหาชั่วคราว คาดว่าน่าจะถูกฝังลึกลงไปมากกว่าศพของนายอาจ่างกับนายเสถียร
จึงวางแผนในการค้นหาใหม่ด้วยการรื้อนั่งร้านออกให้เป็นวงกว้างกว่าเดิม พร้อมทั้งเพิ่มกำลังคนในการขุดเจาะซากปูน นายเชิดวิทย์ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบหาสาเหตุของนั่งร้านถล่มในครั้งนี้ ว่ามาจากสาเหตุใด ระหว่างการรีบเร่งเทปูนก่อสร้าง หรือจะเกิดจากการที่ระหว่างก่อสร้างมีฝนตกพรำๆ มาตลอดทั้งคืนจนทำให้ปูนมีน้ำหนักมากขึ้น นั่งร้านไม่สามารถรับน้ำหนักได้ไหว ถล่มลงมาทับคนงานเสียชีวิต ระหว่างนี้ได้ให้นายสมนึกประกาศเป็นเขตอันตรายห้ามดำเนินการก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากต้องรอให้วิศวกรโยธาและเทศบาลนครนนทบุรีเข้าไปตรวจสอบโครงสร้าง และจุดที่เกิดเหตุก่อน ว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน จึงจะอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้
ต่อมา นายปกรณ์ ศรวณีย์ อายุ 42 ปี ผู้บริหารระดับสูงของโครงการ พร้อมด้วย นายธงชัย จิ๋วราษฎร์อำนวย วิศวกรควบคุมงาน
เข้าพบพ.ต.ท.เฉลิมยศ หอมสกล สารวัตรเจ้าของคดี โดยมีพ.ต.อ.พงษ์สิทธิ์ ร่วมสอบปากคำ โดยนายปกรณ์กล่าวว่า จะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามกฎหมาย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไร ส่วนที่คาดกันว่าทางโครงการรีบเร่งสร้างอาคารโรงหนังนั้น ขอยืนยันว่าเราทำตามขั้นตอนการก่อสร้างทุกอย่าง และมีวิศวกรควบ คุมแต่ละฝ่ายอย่างใกล้ชิด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย เราเองก็เสียใจกับเหตุการณ์
นายธงชัย กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุซึ่งตนไม่ได้อยู่ที่โครงการ แต่มีวิศวกรภาคสนามแจ้งให้ทราบว่าในช่วงเกิดเหตุมีฝนตกหนัก คนงานกว่า 30 คน กำลังทำงานกันตามปกติ
ไม่มีการก่อสร้างรีบเร่งแต่อย่างใด ส่วนที่ทำงานกันในช่วงตอนกลางคืนก็ทำเฉพาะงานเทคอนกรีตซึ่งที่ผ่านมาก็เทกันตามโครงแบบก่อสร้างจนเสร็จสิ้นไปแล้ว 3 ชั้น ก็ไม่พบว่ามีปัญหาอะไร แต่มาวันนี้ขณะคนงานกำลังทำงานกันที่ชั้นที่ 4 ก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้น เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ต้องรอตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง
ด้านพ.ต.ท.ธนาพัฒน์ กล่าวว่า ได้สอบปากคำนายโชคชัยผู้บาดเจ็บและคนงานบางคนไปแล้ว รวมทั้งวิศวกรและผู้บริหาร
เบื้องต้นพอจะทราบสาเหตุแล้วว่าเกิดจากโครงเหล็กนั่งร้านทรุดตัวเนื่องจากรับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งจะเรียกผู้รับเหมาที่ต่อเติมนั่งร้านมาสอบปากคำต่อไป เพราะสถานที่เกิดเหตุมีหลายบริษัทด้วยกันที่เข้ามาดำเนินการ หากพบว่าอุบัติเหตุเกิดจากความประมาทก็จะแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กับผู้เกี่ยวข้องต่อไป