จับตัวได้แล้ว หลอกขยี้ นศ.

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ส.ค. พ.ต.ท.นิกร วีระวงศ์ สว.สส. สภ.ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชนินทร์ คงดิษฐ์ รอง สว.สส. และชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายยงยุทธ ทองดี หรือฉายา อ้วน เปียร์นนท์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 365/4 ซอยเปียร์นนท์ 4 หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พนักงานแผนกสโตร์ ห้างโลตัส รังสิต ในข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่

ภรรยาโดยใช้กำลังประทุษร้าย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายและชิงทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จับกุมได้บนรถประจำทางสายลำลูกกา-รังสิต ขณะวิ่งผ่านหน้าวัดโพธิ์สพผลเจริญ ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา หมู่ 18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เชอรี่ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม. และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายแบบโฆษณาสินค้า เล่นมิวสิกวีดิโอ รวมทั้งเป็นนางแบบให้กับนิตยสารวัยรุ่นหลายฉบับ เข้าแจ้งกับ ร.ต.ท.อุทัย ทองสาหร่าย ร้อยเวร สภ.ต.คูคต ว่า ถูกชายคนหนึ่งชื่อ โจอี้ อ้างตัวเป็นคอลัมนิสต์นิตยสารเกี่ยวกับดาราฉบับหนึ่ง ต้องการหาดารานางแบบเข้าวงการ นัดให้ไปพบที่ศูนย์ การค้าย่านรังสิต ก่อนลวงไปที่ทาวน์เฮาส์หลังหนึ่งใน ต.คูคต ใช้กำลังทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน

แต่ตนยังมีสติพูดต่อรอง ขอใช้มือและปากสำเร็จความใคร่ให้แทน คนร้ายยินยอม หลังเสร็จกิจคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นถ่ายภาพได้ ถ่ายรูปโป๊เปลือยของตนเก็บไว้ ก่อนยอมปล่อยตัวกลับบ้านในวันเดียวกัน ต่อมาชุดสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายยงยุทธ ทองดี หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากบ้าน กระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม สภ.ต.คูคต พ.ต.อ.สมรัก มุมบ้านเซ่า รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก.(สส.) สภ.ต.คูคต พ.ต.ท.นิกร ชัยวีระวงศ์ สว.สส. พ.ต.ท.เอกภพ ตันประยูร สวป. พร้อมชุดสืบสวน สภ.ต.คูคต นำตัวนายยงยุทธ ทองดี ผู้ต้องหาภัยสังคมมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมของกลางประกอบด้วย รถกระบะนิสสัน เอ็นวี สีเขียว ทะเบียน ลต 7858 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือรุ่นถ่ายภาพได้ 3 เครื่อง ปืน .22 ลูกโม่ พร้อมกระสุน มีดพก วีดิโอเทปและวีซีดีลามก ถุงยางอนามัยจำนวนมาก และนิตยสารเกี่ยวกับดาราหลายเล่ม

นายยงยุทธยอมรับสารภาพว่า ล่อลวง น.ส.เชอรี่ไปกระทำอนาจารจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย โดยก่อนเกิดเหตุได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับดารามาอ่าน พบรูปถ่ายและที่อยู่ของผู้เสียหายลงอยู่ในคอลัมน์รับสมัครดารานางแบบ จึงสวมรอยอ้างตัวว่าชื่อ พี่โจอี้ ตามชื่อเจ้าของคอลัมน์ เขียนจดหมายติดต่อไป โดยออกอุบายว่าต้องการให้ผู้เสียหายมาเป็นนางแบบ ถ่ายโฆษณาให้ กับสินค้ายี่ห้อหนึ่ง ปรากฏว่าผู้เสียหายหลงกลติดต่อมาตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้ จึงนัดพบกันเพื่อขอดูตัวที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

จากนั้นพาผู้เสียหายไปที่บ้าน ระหว่างอยู่ในบ้านผู้เสียหายยินยอมสำเร็จความใคร่ให้ และยอมให้ถ่ายรูปเปลือยเก็บไว้เป็นที่ระลึกโดยไม่มีการข่มขู่บังคับ กระทั่งมาทราบว่าถูกผู้เสียหายแจ้งความจับกุม จึงหลบหนีจะไปหาญาติเป็นนายตำรวจชั้น สัญญาบัตรคนหนึ่งในกรุงเทพฯเพื่อปรึกษาเรื่องคดี แต่ถูกตำรวจรวบตัวได้กลางทางก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการตรวจสอบโทรศัพท์ มือถือของกลางที่ยึดมาได้ ปรากฏว่าพบภาพถ่ายโป๊เปลือยของผู้เสียหายและหญิงสาวอื่นๆ อีกหลายสิบคน รวมทั้งภาพการร่วมเพศของผู้ต้องหากับนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นคนหนึ่งด้วย คาดว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะก่อเหตุล่อลวงหญิงสาวมากระทำอนาจารและข่มขืนแล้วหลายราย แต่ ผู้เสียหายส่วนใหญ่อับอายไม่กล้าเข้าแจ้งความ ทำให้ ผู้ต้องหาได้ใจกล้าลงมือก่อเหตุเรื่อยมา ซึ่งจะได้ติดตามผู้เสียหายรายอื่นๆมาให้ปากคำ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ มารสังคมรายนี้ต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ