ทำเนียบขาว ระบุ ผู้นำสหรัฐฯตกใจมากกับข่าวทหารอเมริกันสังหารเพื่อนทหาร 5 นายที่อิรัก
(12พ.ค.) นายโรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า รู้สึกช็อคเมื่อทราบข่าวว่าทหารอเมริกันนายหนึ่งได้ใช้ปืนยิงเพื่อนทหารเสียชีวิตไป 5 นายที่คลีนิคให้คำปรึกษาของกองทัพ ที่แคมป์ ลิเบอร์ตี้ ทางภาคตะวันตกของกรุงแบกแดดซึ่งอยู่ติดกับท่าอากาศยานนาชาติกรุงแบกแดด และติดกับฐานทัพอีกแห่งหนึ่งที่นายโอบาม่าเดินทางไปเยือนเมื่อเดือนที่แล้ว นายทหารระดับสูงนายหนึ่งในกรุงวอชิงตันดีซีเปิดเผยว่ามีทหารบาดเจ็บ 3 นายด้วย แต่ทางกองกำลังสหรัฐฯที่กรุงแบกแดดแถลงว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
มีข่าวว่าปัจจุบัน ทหารนายนั้นได้ถูกควบคุมตัวอยู่ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุร้าย และไม่แน่ชัดว่าทหารที่เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษา หรือเป็นทหารที่ไปขอรับคำปรึกษา กิ๊บส์กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมที่น่ากลัว นายโอบาม่าขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต และเขาจะร่วมหารือกับนาย โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมในวันเดียวกัน เพื่อขอทราบรายละเอียด ขณะที่นายเกตส์แถลงที่กระทรวงกลาโหมว่ากำลังเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ และว่ากระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ลักษณะนี้
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็คาดกันว่า
น่าจะเกิดจากความเครียดในการรบและขวัญกำลังใจตกต่ำ หลังจากสงครามอิรักดำเนินมา 6 ปี การทำร้ายทหารที่มียศสูงกว่า ที่มีคำศัพท์เฉพาะว่า "แฟรกกิ้ง" (fragging) เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงสงครามเวียดนาม แต่เกิดน้อยครั้งในสงครามอิรักกับอาฟกานิสถาน เท่าที่ทราบกันคือเมื่อปี 2548 ศาลทหารมีคำตัดสินให้ประหารชีวิตสิบเอกฮาซาน อัคบาร์ ผู้ก่อเหตุสังหารนายทหารสองนายในช่วงก่อนบุกอิรักเมื่อปี 2546 และในเดือนมิถุนายนปี 2548 มีนายทหาร 2 นายถูกสังหารที่ฐานทัพสหรัฐฯในเมืองทิกริตของอิรัก จากการระเบิดของทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่หน้าต่างห้องพัก ฝีมือทหารชั้นประทวนนายหนึ่ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
