ปดส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระ ทรวงแรงงาน จับหญิงอายุ 68 ตั้งแก๊งหลอกตุ๋นคนไทยเกือบ 60 คน อ้างจะจัดส่งไปทำงานที่สวีเดน
เรียกเก็บเงินหัวละ 1.6 แสนบาท ทั้งยังทำทีพาเหยื่อเกือบ 60 รายไปฝึกงานที่"วัดสวนแก้ว" แล้วขอให้"พระพยอม"ออกใบรับรองฝึกงาน ไปใช้เป็นเอกสารประกอบการขอวีซ่า สุดท้ายความแตกเพราะมีคนไปร้องเรียน ตรวจสอบพบทางสวีเดนไม่มีนโยบายรับคนงานไทย เลยรวบรวมหลักฐานจับกุม เผยยังมีเพื่อนร่วมแก๊งหลบหนีอยู่อีก 3 คน ด้าน"พระพยอม"ยอมรับโดนหลอก ทำให้วัดเสียชื่อ และยังต้องเสียเงินค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร อีก 6 หมื่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี (บก.ปดส.)
พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส. และนายอิทธิ คงวีระวัฒน์ นิติกรชำนาญการ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ร่วมแถลงข่าวจับกุมนางเจริญศรี โสมานุสรณ์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555 ม.77 แขวง-เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1253/2552 ข้อหาร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานต่างประเทศ โดยการหลอกลวงและร่วมกันหลอกลวงประชาชน จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 100/378 ม.6 หมู่บ้านชัยพฤกษ์ 1 ถ.คุ้มเกล้า แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง พร้อมของกลางเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจำนวนหนึ่ง
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานได้รับแจ้ง ว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้หลอกลวงแรงงาน จำนวน 58 คน ที่หลงเชื่อว่าผู้ต้องหาสามารถจัดส่งไปทำงานด้านการเกษตร ที่ประเทศสวีเดนได้
โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนรายละ 160,000 บาท นอกจากนี้ ยังหลอกลวงแรงงานทั้งหมดให้ไปฝึกงานด้านการเกษตรกรรม และพักอาศัยอยู่ที่วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย
พระพยอมแฉ แก๊งตุ๋นอ้างชื่อ
ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบด้วยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 คน ที่ได้ไปหลอกพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ว่าเป็นบริษัทที่สามารถส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศได้
พร้อมขอส่งคนมาฝึกงานด้านการเกษตรกับทางวัดเพื่อขอให้ช่วยออกใบรับรองผ่านการฝึกงาน สำหรับนำไปใช้เป็นเอกสารประกอบการขอวีซ่า ด้วยการพูดจาน่าเชื่อถือ ทำให้พระพยอม เชื่อ จึงอนุญาตให้ใช้สถานที่ของวัดเป็นที่ฝึก งาน และยังหวังดีจะจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงต่อคนให้วันละ 150 บาทอีกด้วย แต่ทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมรับเพียงแต่ขอให้ทางวัดสวนแก้วช่วยออกใบรับรองการฝึกงานให้เท่านั้นก็พอ หลังได้รับอนุญาตแล้วกลุ่มผู้ต้องหาได้นำแรงงานที่ถูกหลอกมาฝึกงานที่วัดสวนแก้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งมีการร้องเรียนและมีการตรวจสอบ ก่อนทราบ ว่าประเทศสวีเดนไม่มีการอนุญาตให้ส่งแรง งานไปทำงานตามที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติออกหมายจากศาลอาญาและเข้าจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นจากการสอบสวนนางเจริญศรี ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ไม่ทราบเรื่องการต้มตุ๋น เพราะมีหน้าที่ดูแลเรื่องที่พักและอาหารให้กับกลุ่มแรงงานที่มาฝึกงานเท่านั้น
โดยก่อนหน้าจะถูกจับ ผู้ต้องหาที่เหลือได้พาแรงงานทั้งหมดไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ไม่ทราบว่าถูกพาไปอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนางเจริญศรี เพราะ ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นตัวการใหญ่ จากการสอบประวัติยังพบว่ามีหมายจับกุมในความผิดเดียวกันนี้ของสภ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เมื่อปี 2545 อีกด้วย สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมต่อไป ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาไปลวงพระพยอมด้วยนั้น จะได้ติดต่อกลับไปว่าประสงค์ที่จะแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วยหรือไม่
ด้านพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า ที่วัดทำมานานแล้ว เวลาคนจะไปต่างประเทศ บางทีบริษัทเขายังไม่รู้ จะเอาคนอีสานไปเช่าโรงแรม
ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ก็มาพักที่วัด 3 วัน 7 วัน พอทำพาสปอร์ตเสร็จเขาก็กลับไป มีอย่างนี้มาตลอดเป็นพันๆ ราย พันๆ คน แต่อาตมาเริ่มสงสัยตรงที่มันบอกว่าจะไปสวีเดน เพราะสวีเดนไม่ใช่ตลาดแรงงาน ถ้าอิสราเอลก็พอว่าเพราะเห็นมีไปกันเยอะ ส่วนคนที่ถูกจับอายุก็เยอะแล้วยังจะมาหลอกกันแบบนี้ วัดเสียหายมาก ช่วงที่คนกลุ่มนี้มาอยู่ที่วัด 7 วัน ให้ทางวัดออกค่าอาหาร สั่งข้าวสาร และอย่างหนึ่งคือที่วัดมีโรงทาน แต่พอมีคนมาอยู่เพิ่มขึ้น 50 กว่าคน ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ช่วงที่มาอยู่ 7 วันทางวัดจ่ายเพิ่มขึ้น 5-6 หมื่นบาท อาตมาก็อยากจะให้กรมแรงงานกับทางเจ้าหน้าที่ช่วยเรียกค่าเสียหายจากพวกนี้มาชดเชยวัด เพราะเอาคนมากินนอนอยู่กับวัด ค่าน้ำ ค่าไฟทางวัดจ่ายหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงมาพักอยู่ที่วัดได้ฝึกอาชีพอะไรหรือไม่ พระพยอมกล่าวว่า คนกลุ่มนี้จะต้องมาเรียนรู้ว่าประเทศที่จะไปเขาจะทำอะไร อย่างทำภาคเกษตรก็ต้องมาเรียนรู้ภาคเกษตรที่วัดสวนแก้ว
ส่วนที่มีข่าวว่าทางวัดรับรองอะไรให้นั้น อยากบอกว่าเวลาข่าวออกไปแล้วมันไม่ตรงกับความจริง ถ้าวัดไปออกใบอะไรให้เท่ากับแสดงว่าวัดก็ร่วมโกงด้วย วัดกินเปอร์เซ็น จะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ที่วัดทำแบบนี้มา 19 ปี ไม่เคยรับอาสาว่าสามารถส่งคนไปต่างประเทศได้ มีแต่บริษัทที่จะพาคนไปมาให้อาตมาช่วยอบรม เพราะอาตมาเคยไปอิสราเอล ไปสอนคนไทยที่ไปทำงานที่โน่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางวัดจะดำเนินการอะไรหรือไม่ พระราชธรรมนิเทศ กล่าวว่า ถ้าไม่เอาค่าอาหารมาคืน เพราะทางวัดออกค่าอาหารไปก่อน แต่ว่าเรื่องอาหารการกินถ้าไม่หลอกอาตมาก็ไม่ว่า
เพราะเรามีโรงทานอยู่แล้ว แต่คราวนี้มาหลอกกิน แล้วยังเอาเงินเขาไป แต่คนที่ถูกจับนั้นไม่ใช่หัวโจก คนนี้เป็นนกต่อ ส่วนหัวโจกอายุยังน้อยอยู่ "ดีแล้วละที่ข่าวนี้ออกมา อาตมาไม่กลัวเสียชื่อหรอก ดีเสียอีก ต่อไปจะได้ไม่มีคนมาหลอกว่าวัดสวนแก้วส่งคนไปต่างประเทศได้ จะได้ไม่ถูกหลอก อาตมาช่วยเหลือคนตกงานมาก็หลายสิบปี ไม่เคยมีเรื่อง คนพวก นี้ตั้งใจมาหลอกอาตมา" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าว