คมชัดลึก :รองผบช.ภ.2 ระบุ เตรียมขออนุมัติหมายจับแก๊งปล้นร้านทองพัทยาเพิ่มอีก 2 ด้านชายลึกลับโทรขู่ยกพวกพร้อมอาวุธถล่มโรงพักโค้งดงตาล แก้แค้นให้พวกที่ถูกจับ ตำรวจตรึงกำลังรับมือ
เช้าวันนี้(6พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม บุกเข้าปล้นร้านทองเยาวราช ในเขตเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ล่าสุด พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ รอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า วันนี้ตำรวจเตรียมจะขอหมายจับจากศาล เพื่อจับกุมคนร้ายเพิ่มเติมอีก 2 คน จากเดิมที่ได้จับกุมเอาไว้แล้ว 3 คน ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมีด้วยกัน 5 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้
พล.ต.ต.ปราโมช กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ยังให้การด้วยว่า นายกมล แสงเพิ่ม อายุ 36 ปี เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงเพียงผู้เดียว
โดยใช้อาวุธปืนสงครามยิงตู้กระจกภายในร้านทอง เนื่องจากพรรคพวกร่วมปล้นด้วยทุบตู้กระจกไม่แตก ส่วนการใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ชนิด เอ็ม79 ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น จนทำให้สะเก็ตไปถูกชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไล่ติดตามได้รับบาดเจ็บนั้น จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า นายกมล ก็เป็นผู้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม79 ดังกล่าวเช่นกัน
"สำหรับทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปนั้น ถือว่ามีจำนวนไม่ใช่น้อย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามมาคืนให้เจ้าของ ซึ่งคนร้ายรับสารภาพด้วยว่า หลังจากก่อเหตุได้แบ่งทองกันเลย จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันหลบหนีไป" รอง ผบช.ภาค.2 กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 พ.ค. พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองพัทยานำกำลังออกตรวจสอบความสงเรียบร้อยและป้องกันเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ
กระทั่งได้รับแจ้งจาก ส.ต.ท.พิชนันท์ เกษมบัว เจ้าหน้าที่ประจำวันสน.ย่อยโค้งดงตาล ว่า ได้รับโทรศัพท์จากชายลึกลับโทร.ข่มขู่ว่าจะพาพวกพร้อมด้วยอาวุธปืนครบมือมาบุกถล่มที่ สน.ย่อยโค้งดงตาล ชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจและตำรวจอาสาจำนวนหนึ่งไปวางกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์และป้องกันเหตุร้ายทันที โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเอาไว้ตามจุดต่างๆ ใกล้เคียงสน.ย่อยโค้งดงตาล และประจำอยู่ที่ สน.ย่อยโค้งดงตาลเพื่อเตรียมรับมือกับคนร้าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตั้งด่านสกัดเส้นทางต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อทำการตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยที่ติดฟิล์มกรองแสงทึบหรือไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งอาจเป็นรถที่ขนอาวุธเตรียมมาเพื่อจะถล่มโรงพักตามที่ได้รับแจ้งมาในเบื้องต้น จนเวลาผานไปนานกว่า 2 ชั่วโมงยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงนำกระจายกำลังกันออกไปตรวจสอบและป้องกันเหตุในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามปกติ แต่ก็ยังคงวางกำลังเจ้าหน้าที่เอาไว้บางส่วน
ส.ต.ท.พิชนันท์ เกษมบัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งประจำวันที่สน.ย่อยโค้งดงตาล และเป็นผู้รับโทรศัพท์ชายลึกลับ กล่าวว่า
เวลาเกิดเหตุขณะนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะประจำวันภายใน สน.ย่อยโค้งดงตาลก็มีเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะดังขึ้น จึงรับโทรศัพท์โดยมีเสียงชายลึกลับดังกล่าวเป็นคนพูดซึ่งน้ำเสียงค่อนข้างใหญ่ได้พูดข่มขู่ว่า อีก 10 นาทีจะยกพวกพร้อมอาวุธครบมือบุกมาถล่มที่ สน.ย่อยโค้งดงตาล เพื่อแก้แค้นให้พรรคพวกที่โดนจับเตรียมตัวเอาไว้ให้ดีจากนั้นจึงวางหูไป ตนจึงแจ้งรายงายให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบทันที
พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค.เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกปล้นร้านทองที่ห้างทองเยาวราช หาดจอมเทียน และ ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับตัวคนร้ายก่อเหตุได้บางส่วนพร้อมของกลางและอาวุธปืนสงครามจำนวนหนึ่ง กระทั่งเวลาที่เกิดเหตุได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวจาก ส.ต.ท. พิชนันท์ เกษมบัว เจ้าหน้าที่ประจำวันของ สน.ย่อยโค้งดงตาล จึงเกรงว่าอาจเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นจึงรีบส่งกำลังเจ้าหน้าที่และตำรวจอาสาไปตรึงกำลังเอาไว้ทันที
ในเบื้องต้นคาดว่าชายลึกลับที่โทรศัพท์มาข่มขู่นั้นอาจเป็นญาติหรือเพื่อนร่วมแก๊งของคนร้ายปล้นร้านทองที่ถูกจับกุมตัวได้จริง
โดยหวังต้องการจะแก้แค้นให้พรรคพวกที่ถูกจับมา เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุนั้นเป็นเขตรับผิดชอบของ สน.ย่อยโค้งดงตาล หรืออาจเป็นพวกโรคจิตหรือมือดีที่ต้องการสร้างความวุ่น วายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสร้างสถานการณ์ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบหาที่มาของโทรศัพท์ของชายลึกลับดังกล่าว หากว่ามีการติดต่อมาอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ระบบโทรศัพท์ของ สน.ย่อยโค้งดงตาลที่ใช้อยู่นั้นยังไม่สามารถตรวจสอบหาเบอร์ต้นสายได้และ ยังคงมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เอาไว้ที่ สน.ย่อยโค้งดงตาล เพื่อเป็นการป้องกันเหตุได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุร้าย