สหรัฐฯยันมีผู้ตายจากหวัด2009เป็นคนที่2

คมชัดลึก :เม็กซิโกเดินหน้าเปิดประเทศหลังประเมินความเสียหายมหาศาลจากหวัดใหญ่ 2009 ขณะที่สหรัฐฯยืนยันผู้เสียชีวิตเป็นคนที่สองจากหวัดมรณะ


(6พ.ค.) องค์การอนามัยโลกหรือ WHO รายงานยอดผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อโรคทั่วโลกเมื่อวันอังคารว่ามีอย่างน้อย  1,617 คน

ซึ่งรวมทั้งผู้เสียชีวิต 26 คนที่เม็กซิโก กับ 2 คนที่สหรัฐ เพราะสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นสตรีวัย 30 ปีเศษในรัฐเท็กซัส ผู้อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนเม็กซิโก ขณะที่เม็กซิโกซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรค และมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ 840 คน ยังเดินหน้านำประเทศกลับสู่ภาวะปกติในวันนี้ ซึ่งรวมทั้งการเปิดภาคธุรกิจและสถานศึกษา หลังจากประเมินแล้วว่า การปิดประเทศนาน 5 วันตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ได้สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และได้ประเมินค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 8 หมื่นล้านบาท)


ขณะเดียวกัน สหรัฐฯซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสอง แต่จำนวนที่แน่นอนยังสับสน

โดยสำนักข่าวเอพีรายงานตัวเลขของ WHO อยู่ที่ 487 แต่ทางสหรัฐยืนยันยอดผู้ติดเชื้อแค่ 403 คน และได้ลดความเข้มงวดของคำแนะนำเกี่ยวกับกรณีที่ต้องสั่งปิดโรงเรียนลง  โดยให้ใช้วิธีส่งเด็กที่ติดเชื้อ  ให้กลับไปนอนพักที่บ้าน 7 วันแทน บ่งชี้ว่าความวิตกกลัวไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ลดน้อยลงแล้ว แม้จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้คนที่สองในรัฐเท็กซัส  ซึ่งเป็นคนแรกที่เป็นชาวอเมริกัน แต่เป็นสตรีผู้มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เป็นเด็กชายชาวเม็กซิกันวัย 20 เดือน ผู้อยู่ในระหว่างเยี่ยมญาติที่สหรัฐฯ
 
ยอดผู้ติดเชื้อใน 38 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐฯเพิ่มจาก 286 คนเป็น 403 คน


ภายใน 24 ชั่วโมงขณะที่ทั้งนางแคทเธอลีน เซเบลิอีส รัฐมนตรีสาธารณสุข กับนายริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการณ์ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ต่างยอมรับว่า ไวรัสโรคนี้อาจยังคงระบาดในสหรัฐฯและทั่วโลกต่อไป รวมทั้งยังอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม แต่ก็ยืนยันว่าการระบาดไม่รุนแรงเท่าที่คาดไว้ และตามปกติ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ปีละ 2 แสนคน และเสียชีวิตประมาณ 35,000 คนเป็นประจำอยู่แล้ว  แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐอิลลินอยส์มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 10 เท่าตัว เป็น 82 คน ภายใน 24 ชั่วโมง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์