ไอ้หื่นข่มขืน-ฆ่านศ.สารภาพอ้างต้องการเงินซื้อยาให้เมียอัมพฤกษ์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 แถลง พ.ต.ต.ธนโชติ อินพะรัม สว.สส. สน.บางเสาธง

นำกำลังจับกุมนายระนอง หรือทิ้ง บัวผัน  อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/12 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ศรัญญา ชวยกระจ่าง อายุ 20 ปี อยู่ที่ 49/2 หมู่ 5 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กทม. นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชการพระนคร เหตุเกิดข้างบ้านก่อสร้างไม่มีเลขที่ ซอยธนาคาร แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2552 เวลาประมาณ 18.40 น. พร้อมของกลางแห เชือก ซิมการ์ดโทรศัพท์ หมายเลข 086-6776057 ของผู้ตาย กระเป๋าถือแบบผู้หญิงลายเสือ ภายในมีบัตรประจำตัวประชาชน, บัตรประจำตัวนักศึกษา และบัตรวีซ่าธนาคารกรุงไทย ของผู้ตาย จับได้ที่ป้ายรถประจำทางก่อนข้ามสะพานนวลฉวี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี


พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้ตายเดินทางกลับบ้าน โดยมีแฟนหนุ่มที่เรียนสถาบันเดียวกันมาส่งปากซอย เวลา 18.00 น.

แต่ต่อมาระหว่างทางที่ผู้ตายโทรศัพท์คุยกับบิดาว่าอีก 50 เมตรจะถึงบ้าน ปรากฏว่ามีเสียงร้องและก็หายไป บิดาจึงไปแจ้งความที่ สน.บางเสาธง จากนั้นวันที่ 1 พฤษภาคมเวลา 11.30 น. จึงมีคนพบศพผู้ตาย ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังลงพื้นที่พบว่า จุดใกล้เคียงมีคนงานก่อสร้างหายไป 1 คนและต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายจึงติดตามสืบสวนและจับกุมได้

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวอีกว่า สอบสวนนายระนองอ้างว่า ระหว่างที่จะไปหาปลาพบผู้ตาย จึงใช้แหครอบผู้ตาย

ก่อนใช้ปลายรัดคอจนหมดสติ ก่อนนำตัวไปที่จุดเกิดเหตุและปลดทรัพย์สิน จากนั้นจึงเดินกลับไปที่บ้านใช้เชือกรัดคอผู้ตายจนเสียชีวิต และทำการข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และเดินหาโทรศัพท์ของผู้ตายที่ตกอยู่ระหว่างทาง ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้มีเงิน 720 บาทหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าผู้ต้องหาข่มขืนผู้ตายแล้วฆ่าหรือไม่ หรือฆ่าแล้วจึงข่มขืน เพราะหากข่มขืนแล้วฆ่ามีความผิดถึงขั้นประหารชีวิตสถานเดียว


ด้านนายระนองอ้างสารภาพว่า ทำงานอยู่ละแวกดังกล่าวเห็นผู้ตายเดินผ่านทุกวัน

วันเกิดเหตุเดินไปหาปลา แต่เนื่องจากเงินไม่มีจึงลงมือนำแหครอบระหว่างเดินกลับบ้านพัก และไม่มีเงินใช้ จึงลงมือกับผู้ตาย ก่อนจะใช้เชือกรัดคอแล้วข่มขืนจากนั้นจึงหลบหนี โดยต้องการเงินไปซื้อยาให้ภรรยาที่เป็นอัมพฤกษ์ เพราะทำงานก่อสร้างด้วยกันแล้วล้ม ซึ่งค่าใช้จ่ายค่ายาวันละ 300 บาท โดยย้ายมาอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน โดยมีลูกด้วยกัน 3 คน


เมื่อถามว่าจะไปขอขมาศพหรือไม่ นายระนองกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยจุดธูปขอโทษคนตายไปแล้ว และไม่อยากไปขอขมาศพ

และผู้ตายไม่เคยมาหลอกหลอน และตนไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน เพียงอยากได้ทรัพย์สินเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ตนข่มขืนน้าสะใภ้นั้นตนไม่เคยทำ 
ด้านพล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธว่าทำไปเพราะต้องการเงินเป็นอันดับแรก แต่เชื่อว่าน่าจะตั้งใจลงมือข่มขืน โดยผู้ต้องหาเคยมีคดีทำรายร่างกายที่ สภ.เมืองนนทบุรี ในช่วงวัยรุ่น และคดียาเสพติดที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุ โดยระดมกำลังอย่างเต็มที่ในการป้องกัน เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจุถูกรุมประชาทัณฑ์ เพราะมีประชาชนที่ทราบข่าวมาดักรอกว่า 200 คน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์