ตรวจพบหนุ่มยักยอกเงินแบงก์ซื้อกองทุน140ล.บ้าน-รถ-คอนโด กว่า50ล.ขรรค์สั่งผจก.ทั่วปท.คุมเข้มลูกน้อง


ตร.ตรวจพบหนุ่มธอส.นำเงินซื้อกองทุนธนชาต 140 ล้าน บ้าน รถยนต์ คอนโดฯกว่า 50 ล้าน เผยติดพนันฟุตบอลหนัก บ้าซื้อลอตเตอรี่งวดละกว่า 30 ล้าน "ขรรค์" ป้องประวัติศาสตร์ซ้ำรอย สั่งผจก.ทั่วปท.คุมเข้มลูกน้อง

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ภายหลังเรียกประชุมผู้จัดการสาขา ธอส.ทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์นายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช พนักงานธุรกิจสาขาอาวุโส ธอส. ประจำสาขาเซนต์หลุยส์ 3 ยักยอกเงินของธนาคารร่วม 400 ล้านบาท ว่าได้กำชับและให้ดูแลพฤติกรรมการทำงานของพนักงาน ธอส.ทุกสาขาอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ผู้จัดการสาขาแต่ละแห่งทั่วประเทศได้ชี้แจงลูกค้าผู้ฝากเงินในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการยักยอกทรัพย์ของธนาคาร ไม่ได้มีการยักยอกทรัพย์จากบัญชีของลูกค้าแต่อย่างใด เพราะเป็นบัญชีรายจ่ายของธนาคารที่เตรียมดอกเบี้ยไว้จ่ายผู้ฝากเงิน

"ผู้กระทำความผิดคือนายสมเกียรติได้โอนเงินจากบัญชีของ ธอส.เข้าบัญชีของตนเอง เป็นเงินของธนาคารไม่ใช่ของลูกค้า โดยต้องยอมรับว่าแต่ละเดือนมีเงินเตรียมจ่ายดอกเบี้ยแก่ลูกค้า 1,800-1,900 ล้านบาท ปีละประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท ให้อำนาจพนักงานมีรหัสโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการบริการ ดังนั้น หากโอนเงิน 10-20 ล้านบาท ก็จะไม่พบความผิดปกติ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปจะเข้มงวดมากยิ่งขึ้น"นายขรรค์กล่าว

นายขรรค์กล่าวว่า ยังได้ให้ผู้จัดการสาขากลับไปดูความผิดปกติในการทำงานในสาขาของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะควรตรวจสอบความผิดปกติในระดับต่างๆ และให้ดูไปถึงพฤติกรรมพนักงานของแต่ละคน เช่น มีลักษณะติดหนี้พนันฟุตบอล หรือมีการใช้จ่ายเกินรายได้หรือไม่ หากพบข้อสงสัยก็ให้มีการโยกย้ายไม่ให้มีการทำงานเกี่ยวข้องกับบัญชีต่างๆ ต่อไป โดยกรณีของนายสมเกียรติ พบว่าเป็นหนี้พนันบอลกว่า 40 ล้านบาท และมีการนำเงินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม จากการประชุมติดตามทรัพย์สินในขณะนี้คาดว่าจะได้คืนทั้งในรูปเงินสด และทรัพย์สินต่างๆ กว่า 200 ล้านบาท ซึ่ง ธอส.จะพยายามติดตามให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาจจะได้ไม่ครบทั้ง 400 ล้านบาท ก็ตาม

นายขรรค์กล่าวอีกว่า คดีที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธนาคารอย่างมาก และต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจสอบการดำเนินการบัญชีรายจ่ายดอกเบี้ยและส่วนต่างๆ ปีละ 1 ครั้ง โดยได้มีการตรวจสอบไปแล้วเมื่อกลางปี 2551 แต่ไม่พบความผิดปกติ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ ธอส.ทำพลาด เพราะดูแต่การทำงานของแต่ละสาขา แต่ไม่ได้ดูไปถึงบัญชีเงินฝากของพนักงาน ดังนั้น จากนี้ไปคงจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของพนักงาน ธอส.ทั่วประเทศด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้อีก แต่หากมีการเปิดชื่อบัญชีด้วย รายชื่อของคนอื่นก็คงตรวจสอบได้ยาก แต่ก็จะหาแนวทางป้องกันให้ดีที่สุด

"วันที่ 4 พฤษภาคม ธอส.จะมีการประชุมและตั้งคณะกรรมการทั้งตรวจสอบและพิจารณาแนวทางป้องกันปัญหา ซึ่งมาตรการที่จะทำได้อีกแนวทางหนึ่งคือ การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของพนักงานที่คงต้องมีระดับชั้นการเข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันปัญหาการยักยอกเงิน"นายขรรค์กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า จากการสอบสวน พบว่านายสมเกียารติติดซื้อลอตเตอรี่และการพนันฟุตบอลมาก โดยสอบถามคนขายลอตเตอรี่ที่สี่แยกคอกวัวพบว่า ผู้ต้องหาเคยมาซื้อถึงครั้งละ 10 ล้านบาท และสูงสุดถึงกว่า 30 ล้านบาท ในส่วนการอายัดทรัพย์สินนั้น พบว่า นายสมเกียรติ นำเงิน 140 ล้านบาท ไปซื้อกองทุนของธนชาต และตรวจพบเงินสด 12 ล้านบาทเศษ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ บ้าน หรือคอนโดมิเนียม คาดว่ามีมูลค่ากว่า 50-60 ล้านบาท

วันเดียวกัน พ.ต.ต.มโนชญ์ สวนดอกไม้ พนักงานสอบสวน (สบ 2) กองปราบปราม นำตัวนายสมเกียรติ ไปขออำนาจศาลอาญา เพื่อขอฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-13 พฤษภาคมนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และยังได้เงินบางส่วนไม่ครบ อาจซุกซ่อนอยู่ หากปล่อยตัวชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะทำลายหลักฐาน หรือถ่ายเททรัพย์สินไปที่อื่น ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ส่วนญาติที่ได้ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนบาท เพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสมเกียรติ ขึ้นรถไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์