สาวถูกหมอผ่าตัดทำท่อไตรั่วถึงราชวิถี

คมชัดลึก :สาวเคราะห์ร้ายถูกหมอผ่าตัดมะเร็งทำท่อไตรั่วสุดดีใจถึงมือหมอราชวิถี ยัน ไม่คิดเรื่องอื่นขอให้หายปกติก็พอ รองผอ.รพ.สมุทรสาคร แถลงโต้ เผย หมอผ่าตัดท้อแท้หลังถูกร้องเรียน ระบุ ไม่เคยวินิจฉัยผู้ป่วยเป็นมะเร็ง แจงตัดมดลูกเหตุพบช็อกโกแลตซีสต์ แต่ยอมรับผ่าตัดโดนท่อไตรั่วเป็นเรื่องความผิดพลาด อ้ำอึ้งเรื่องลืมผ้ากอซในช่องคลอด บอกไม่เป็นอันตราย เมื่อเอาออกก็จะจบ

ความคืบหน้ากรณี นางกัลยา อิดออด อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 4 ต.แคลาย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังได้รับความทุกข์ทรมานกว่า 1 ปี เนื่องจากแพทย์โรงพยาบาลสมุทรสาคร ผ่าตัดก้อนเนื้อบริเวณลำไส้ใหญ่ เพราะคิดว่าเป็นมะเร็ง แต่ภายหลังปรากฏว่า ก้อนเนื้อที่เอาออกมาไม่ได้เป็นมะเร็ง อีกทั้งระหว่างผ่าตัดหมอยังลืมผ้าพันแผลไว้ในช่องคลอด แถมท่อปัสสาวะที่ถูกส่งไปยังไตยังถูกตัดขาด เนื่องจากผ่าตัดผิดพลาด ทำให้ปัสสาวะไหลตลอดเวลา นอกจากนี้หมอคนดังกล่าวยังบอกให้คนไข้ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น


ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม นางปวีณาได้ประสานไปยัง นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำตัวคนไข้เข้ารับการรักษาเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา

ผู้ป่วยมีอาการไข้ขึ้นสูง ปลัดกระทรวงจึงมอบหมายให้โรงพยาบาลราชวิถีดูแลคนไข้รายนี้ โดยมี นพ.สมปอง ธนไพศาลกิจ รอง ผอ.รพ.ราชวิถี และนพ.สันติ โลกเจริญลาภ แพทย์ศัลยกรรม มาดูแลรักษา โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ตึกศิรินทร ชั้น 10 ห้อง 106 ทางแพทย์ได้มาสอบถามอาการและวัดความดัน


นพ.สันติกล่าวถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยว่า จากการตรวจท่อไตด้านซ้ายพบว่า มีรูรั่วทะลุออกมาทางช่องคลอด โดยแพทย์ที่รักษาก่อนหน้านี้ได้พยายามใส่ท่อที่รั่วก่อนหน้านี้

แต่เนื่องจากกรวยไตขยายไม่ได้ขนาดเพียงพอ จึงไม่สามารถใส่ท่อดังกล่าวได้ ส่วนแนวทางของแพทย์ที่ราชวิถีคงใช้วิธีเช่นเดียวกัน แต่ต้องรอให้กรวยไตมีขนาดเพียงพอก่อนที่จะใส่ท่อปัสสาวะได้
นพ.สันติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องลำไส้ใหญ่ทางแพทย์ต้องตรวจดูว่า มีน้ำปัสสาวะรั่วเข้าไปหรือไม่ รวมทั้งต้องตรวจลำไส้ด้วยว่ามีส่วนไหนรั่วหรือไม่ ขณะที่มดลูกนั้นจะมีหมอเฉพาะทางมาประเมินอาการอีกชั้นหนึ่ง คาดว่าน่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์กว่ากรวยไตจะขยาย อย่างไรก็ตามแพทย์จะตรวจอาการอย่างละเอียด ซึ่งคงต้องรอผลตรวจอีกสักระยะ โดยแพทย์จะรักษาทั้งสามส่วนควบคู่กันไป


ด้านนางกัลยากล่าวด้วยความตื้นตันว่า วันนี้ดีใจได้มารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้รู้สึกมืดมนไม่รู้จะพึ่งพาใคร

ตลอดเวลาต้องทรมานมานานนับปี คิดอย่างเดียวว่าต้องมาร้องเรียนนางปวีณา เพื่อให้ถึงมือหมอก็พอแล้ว เพราะกลัวว่าหากไปรักษาด้วยตัวเองจะไม่ได้รับการดูแล และถูกปล่อยให้รอ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องยังตอบไม่ได้ และคงต้องคุยกับมูลนิธิว่า สมควรหรือไม่อย่างไร ตอนนี้คิดแค่ ขอให้อาการหายเป็นปกติก็ดีใจแล้ว  


วันเดียวกัน นพ.วีระศักดิ์ ครองลาภเจริญ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลขอชี้แจงใน 3 ประเด็นคือ

1.คือวินิจฉัยผิด 2.ผ่าตัดแล้วโดนตัดท่อไตทำให้มีน้ำปัสสาวะไหลมาค้างในช่องคลอด และ 3.มีผ้าพันแผลค้างอยู่ในช่องคลอด ทั้งนี้ในประเด็นที่ 1 ยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่ได้วินิจฉัยผิด และไม่เคยวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้  โดยความจริงได้วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยมีการอุดตันของลำไส้ใหญ่ ซึ่งผู้ป่วยเองก็เคยมารักษากับโรงพยาบาล ก่อนจะไปรักษากับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และรับทราบมาว่า เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยเองไม่มั่นใจจึงย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลสมุทรสาครอีกครั้ง


นพ.วีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการตรวจ แพทย์ใช้กล้องส่องตรวจ และส่งเนื้อเยื่อไปตรวจพิสูจน์ ซึ่งได้ยืนยันไปแล้วว่า ไม่ใช่มะเร็งลำไส้ใหญ่

แต่เป็นลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง เป็นเรื่องของการอุดตัน หลังจากที่วินิจฉัยแบบนี้แล้ว ต่อมาผู้ป่วยถ่ายอุจจาระไม่ออก และได้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แพทย์จึงผ่าตัดให้เพื่อให้อุจจาระได้ โดยให้มีการระบายออกมาได้ทางหน้าท้อง 
อย่างไรก็ตามหลังผ่าตัด แพทย์จึงพบสิ่งแปลกปลอมในช่องท้องภายในมดลูกและรังไข่ ซึ่งเป็นเป็นต้นเหตุของการอุดตัน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ทราบเลยว่ามีสิ่งแปลกปลอม แต่เมื่อผ่าตัดเข้าไปจึงทำให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากการเป็นช็อกโกแลตซีสต์ในมดลูกและรังไข่นั่นเองและเป็นสาเหตุของการอักเสบได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการอุดตันของลำไส้ ทั้งนี้หลังจากผ่าตัดเอาอุจจาระออกมาระบายทางหน้าท้องแล้ว คนไข้มีความต้องการที่จะถ่ายอุจจาระได้ตามธรรมชาติทางช่องทวารหนักเหมือนเดิม แพทย์แนะนำไปว่า ถ้าจะขับถ่ายทางเดิมนั้น ต้องตัดมดลูกออกก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว


“ส่วนเรื่องที่คนไข้กลับไปร้องว่า เป็นมะเร็งลำไส้ และมาถูกตัดมดลูกออก ทำให้เสียมดลูกเสียรังไข่ไป ซึ่งก่อนผ่าตัดนั้นคนไข้ยังบอกกับหมอผ่าตัดว่า เขาขอเหลือรังไข่ไว้บ้างนะ หมอก็ตอบว่า เหลือไว้ไม่ได้เนื่องจากมีพังผืดเกาะอยู่จำนวนมาก แต่หมอก็ยังผ่าตัดเหลือรังไข่ไว้อีกข้างหนึ่ง ก่อนจะตัดต่อลำไส้กลับที่เดิมได้ ส่วนหมอผ่าตัดคนนี้ถือว่าเป็นหมอที่มีฝีมือ แต่หลังจากทราบข่าวร้องเรียนนี้ ทำให้หมอผ่าตัดเสียความรู้สึกเป็นอย่างยิ่ง ส่วนที่ผ่าตัดไปโดนท่อไตนั้นก็ไม่ได้เจตนา และมันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้ในสภาวการณ์อย่างนี้หรืออาจพลาดไปโดนได้" นพ.วีระศักดิ์กล่าว


นพ.วีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ภายหลังผ่าตัด 3-4 เดือนถัดมา ผู้ป่วยมีน้ำในไตไหลออกมา

จึงได้รู้ว่ามีช่องเปิดเกิดขึ้นระหว่างท่อไตและช่องคลอด ซึ่งโรงพยาบาลพยายามที่จะดูแลเรื่องนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตลอดจนพยายามจะรักษาเยียวยาให้ แต่ทางศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลให้ความเห็นว่าน่าจะส่งไปยังโรงพยาบาลราชวิถี และขณะอยู่ระหว่างส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลราชวิถีคิดว่าผู้ป่วยคงไม่พอใจ ประกอบกับช่วงหลังที่ผู้ป่วยปัสสาวะออกมาพบว่ามีกลิ่นเหม็นในช่องคลอด จึงทำให้รู้ว่า มีผ้ากอซอยู่ในช่องคลอด ส่วนที่มีผ้ากอซอยู่ในช่องคลอดนี้ไม่มีเป็นอันตรายแต่อย่างใด เมื่อเอาออกก็จะจบ


"เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาแค่เพียงนิดเดียวก็มาร้องเรียนเรา แต่ทำไมเมื่อสิ่งที่ทางเราแก้ไขให้มากมาย ไม่คำนึงถึงสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของความรับผิดชอบนั้น ทางโรงพยาบาลยินดีรับผิดชอบทุกเรื่องแล้ว และหากไม่รับผิดชอบคงไม่ไปตามเรื่องส่งไปยังโรงพยาบาลราชวิถีให้” รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลระบุ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์