โปลิศกรุงเก่า รวบแก๊งหื่นสุดทราม ชิงทรัพย์-ปล้นทรัพย์
รุมโทรมถ่ายคลิป ส่งขายผลิดซีดี แฉก่อเหตุมาแล้วทั่วภาคกลางไม่ต่ำกว่า 10 คดี ลงมือข่มขืนแบบป่าเถื่อน แม้กระทั่งทอมยังไม่เว้นจนติดโรค และหากติดใจเหยื่อสาวคนใด จะเอาคลิปไปข่มขู่บังคับข่มขืนซ้ำ
โปลิศกรุงเก่ารวบแก๊งหื่นสุดทรามชิงทรัพย์รุมโทรมถ่ายคลิป ส่งขายผลิตซีดี รายนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 เม.ย.ที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ สวญ.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.ท.นฤนาท พุทไธสง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผินแสง สว.สส. ร่วมกัน แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปประจานทั่วภาคกลาง ได้ผู้ต้องหา 2 รายทราบชื่อ นายธวัชชัย งามประกอบ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.โคกสว่าง อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด และ นายถาวร ภาคบุญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 2 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สภ.พระอินทร์ราชา ร่วมกันจับกุมได้ที่ห้องเช่า ใกล้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย
พร้อมรถเก๋งฮอนด้าซีวิค 1 คัน รถ จยย. 2 คัน อาวุธปืนปลอม 1 กระบอก โทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยวิดีโอคลิปโป๊จำนวนมาก 2 เครื่อง กระเป๋าถือสตรี ซิมการ์ดโทรศัพท์ของผู้เสียหาย 10 อัน อุปกรณ์งัดแงะ และทรัพย์สินมีค่าอีกจำนวนมาก พล.ต.ต.ชินทัต เปิดเผยว่าจากการสืบสวนพบมีผู้รวมแก๊ง 4 คน คือผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้ว 2 ราย และที่ยังหลบหนีอีก 2 ราย คือ นายหม่อน อายุ 25 ปี และ นายเด่น อายุ 20 ปี โดยทั้งหมดได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุ ในเขตภาคกลาง อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, อ่างทอง, ปทุมธานี, ลพบุรี และสิงห์บุรี โดยจะใช้อาวุธปืนปลอมในการก่อเหตุ ชิงทรัพย์หญิงสาว ที่ยืนรอรถโดยสารหากพอใจหญิงสาวคนไหนก็จะฉุดขึ้นรถแล้วพาไปรุมโทรมข่มขืน อย่างป่าเถื่อนโดยไม่สวมถุงยางอนามัย และทุกครั้งจะถ่ายวิดีโอคลิปด้วยโทรศัพท์มือถือจากนั้นจะนำเอาไปขายแก่ผู้ผลิตซีดีเถื่อนเพื่อก๊อบปี้จำหน่ายโดยขณะนี้เริ่มมีคลิปออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตบ้างแล้วโดยหลังจากก่อเหตุก็จะปลดเอาทรัพย์ สินของเหยื่อที่เป็นหญิงสาวไปทุกครั้ง และหากแก๊งดังกล่าวติดใจเหยื่อสาวคนใดก็จะติดต่อ หรือไปดักเพื่อเอาภาพวิดีโอคลิปมาข่มขู่เรียกเอาทรัพย์สิน หรือบังคับไปข่มขืนซ้ำ
ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่าแก๊งดังกล่าวก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คดี
โดยหนึ่งในนั้นเป็นคู่ทอมดี้ ที่ถูกลากไปข่มขืนข้างถนนทั้งคู่ และสาวทอมที่ตกเป็นเหยื่อยังติดโรคจากแก๊งดังกล่าวด้วย จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพ และจำเหตุการณ์หรือเหยื่อที่ก่อเหตุได้เกือบทั้งหมด แต่เมื่อตรวจสอบไปยังท้องที่ต่าง ๆ ที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุ กลับพบว่ายังไม่มีการแจ้งความ ทั้งนี้เชื่อว่าเหยื่ออับอายและไม่กล้าเข้าแจ้งความ อย่างไรก็ตามขอร้องให้เข้ามาแจ้งความเพื่อผลทางคดี โดยทางเจ้าหน้าที่จะปิดเป็นความลับ พร้อมสืบสวนติดตามผู้ร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป.