คมชัดลึก :เกาหลีใต้ประกาศเพิ่มผู้ต้องสงสัยเป็นหวัดเม็กซิโกเพิ่มอีก 9 คน รวมเป็น 12 คน ด้านผู้บริหารสายการบิน"ไรอันแอร์" ระบุ หวัดเม็กซิโกเป็นอันตรายสำหรับชาวชุมชนแออัด
(29เม.ย.) โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้แถลงว่า กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบผู้ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโก" อีก 9 คน
เพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่ได้เคยประกาศจำนวนผู้ต้องสงสัยรวม 3 คน ก่อนจะระบุว่า ในจำนวนนี้ 2 คนตรวจแล้ว ได้ผลเป็นลบ ส่วนอีกคนหนึ่งถูกจัดไว้ในประเภท" ผู้ที่อาจติดเชื้อ" ("probable" case)ซึ่งทำให้จนถึงปัจจุบัน มีผู้ที่ถูกตรวจสอบเพราะสงสัยว่าจะติดเชื้อโรคนี้ในเกาหลีใต้มียอดรวม 12 คนแล้ว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัยล่าสุดจำนวน 9 คน นี้ เพิ่งเดินทางกลับมาจากการท่องเที่ยวในเม็กซิโก หรือในสหรัฐฯเมื่อไม่นานมานี้
และมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ เช่น ไอ และมีไข้ ส่วนสำหรับกรณีของสตรีผู้ที่ถูกจัดไว้ในประเภท" ผู้ที่อาจติดเชื้อ"เพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโกเมื่อวันอาทิตย์ ด้านหนังสือพิมพ์"เดอะ ไทม์ ออฟ ลอนดอน" ฉบับวันอังคาร อ้างถ้อยแถลงของนายไมเคิล โอ'เลียรี่ หัวหน้าผู้บริหาร" ไรอัน แอร์"สายการบินต้นทุนต่ำชั้นนำของยุโรป ผู้ปฏิเสธคำเตือนของหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ว่า"โรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก"อาจกลายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก โดยเขากล่าวว่าโรคนี้เป็นอัน รายเฉพาะสำหรับชาวชุมชนแออัดในเม็กซิโกและเอเชียเท่านั้น จะส่งผลกระทบน้อยต่อชาวยุโรป
นายโอ'เลียรี่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวยุโรปจะไม่เสียชีวิตเพราะโรคนี้ เช่นเดียวกับที่ไม่เคยเสียชีวิตจากโรคซาร์ส และโรคปากเท้าเปื่อย
เขายืนยันว่าการระบาดของโรคนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่จะเดินทางระยะสั้นทั่วยุโรปในฤดูร้อนนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นโศกนาฏกรรมเพียงสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดในเอเชียและเม็กซิโก เขาอ้างอิงถึงคู่ฮันนีมูนจากเมืองเอดินเบอร์กของอังกฤษ ที่กลายเป็นชาวอังกฤษสองคนแรกที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้ออย่างอ่อนๆหลังกลับจากฮันนีมูนที่เม็กซิโก โดยบอกว่าทั้งคู่ไม่ได้เสียชีวิตและว่าอมยาอมฆ่าเชื้อในลำคอยี่ห้อ"สเตรปซิลส์" เพียง 2 เม็ดก็ใช้ได้แล้ว
นายโอเลียรี่ เคยเป็นข่าวพาดหัวหลายครั้งจากคำพูดที่ไม่ระมัดระวัง รวมทั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่เขาเสนอแนวคิดเก็บเงินค่าใช้ห้องน้ำเป็นเงิน 1 ปอนด์ (ราว51 บาท) จากผู้โดยสาร
และเมื่อปี 2548 หน่วยงานควบคุมการโฆษณาของอังกฤษได้สอบสวนกรณีที่ทางสายการบินใช้โฆษณาที่อ้างอิงถึงเหตุระเบิดบนระบบขนส่งมวลชนในกรุงลอนดอนของอังกฤษที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน เพื่อเพิ่มยอดขายตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดของตน แม้หน่วยงานดังกล่าวจะสรุปว่าเป็นโฆษณาที่ไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองอย่างกว้างขวาง แต่ก็เป็นโฆษณาที่" ไร้รสนิยมอย่างที่สุด"