รวบช่างเหล็ก ลวงขยี้เมียฝรั่ง

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 5 ส.ค. พ.ต.ต.ชวาลา พรหมแสง สารวัตรเวร สภ.อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีหญิงสาวถูกข่มขืนอยู่ในป่าละเมาะ หลังโรงไฟฟ้าย่อย ริมถนนมิตรภาพ ช่วงระหว่าง กม.ที่ 231-232 หมู่ 1 ต.นากลาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เพชรคง ผกก. พ.ต.ท.สมเจตน์ กาบคำ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.สกนธ์ ทองอินจันทร์ สว.สส. พ.ต.ต.คเชนท์ เสตะปุตตะ สวป. และตำรวจจำนวนหนึ่ง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีเขียว ทะเบียน พวก 17 กทม. จอดอยู่ข้างทาง ห่างจากรถออกไปประมาณ 20 เมตร พบผู้เสียหายทราบต่อมาชื่อ น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 20 ปี อยู่ในสภาพเปลือย นั่งร้องไห้ตัวสั่น ตามลำตัวมีร่องรอยถลอกและเขียวช้ำ เมื่อทราบว่ามีตำรวจมาช่วยเหลือ น.ส.หนึ่งถึงกับโผเข้ากอดร้องไห้ ตำรวจจึงจัดหาเสื้อผ้ามาให้สวมใส่แล้วนำตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก

น.ส.หนึ่งให้การด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า บ้านอยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา แต่งงานแล้วกับสามีเป็นชาวออสเตรเลีย โดยสามีซื้อบ้านให้อยู่คนเดียวที่เมืองไทย เนื่องจากสามีเป็นนักธุรกิจต้องดูแลกิจการอย่างใกล้ชิด จึงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย แต่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมปีหนึ่งประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากสามี บอกว่าจะเดินทางกลับมาเมืองไทย ให้ไปรอรับที่สนามบินดอนเมืองในเวลา 07.00 น. วันที่ 6 ส.ค. และยังกำชับด้วยว่าไม่ต้องขับรถไป เพราะหลังจากลงเครื่องบินแล้วจะพาไปซื้อรถยนต์คันใหม่ จากนั้นจะพาไปเที่ยวพักผ่อนที่พัทยาต่อก่อนจะกลับบ้านที่ จ.นครราชสีมา ด้วยความดีใจที่จะได้พบหน้าสามี จึงรีบแต่งตัวเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าออกจากบ้านกลางดึกไปยืนรอรถทัวร์ที่ริมถนนมิตรภาพ บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านการเคหะ เขต ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

ระหว่างยืนรอรถอยู่คนเดียวได้มีชายวัยกลางคนขี่รถจักรยานยนต์คันที่พบในที่เกิดเหตุผ่านมาพบสอบถามว่าจะไปไหน เมื่อทราบว่ารอรถเข้า กทม. ชายเจ้าของรถขันอาสาขี่รถพาไปส่งที่สถานีขนส่งในตัวเมือง โดยอ้างว่าจุดที่ยืนรอรถเป็นที่มืดเปลี่ยวรถไม่จอดรับ ด้วยความหลงเชื่อ จึงยอมนั่งซ้อนท้ายไปด้วยกัน แต่ชายคนดังกล่าวกลับพาไปที่เกิดเหตุ พร้อมกับแสดงตัวเป็นคนร้ายฉุดลงจากรถลากตัวเข้าไปในป่าละเมาะข้างทางบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ขณะลงมือคนร้ายยังใช้ปากกัดที่หน้าอกและตามลำตัวเป็นรอยจ้ำอย่างซาดิสต์ ได้พยายามยกมือไหว้อ้อนวอนคนร้าย ขอให้พาไปส่งที่สถานีขนส่ง เพื่อเดินทางไปให้ทันรับสามีที่สนามบินดอนเมืองในตอนเช้า แต่คนร้ายไม่ฟังเสียง กลับบังคับข่มขืนอีกเป็นครั้งที่ 2 อย่างหื่นกระหาย ขณะนั้นมีชาวบ้านเดินผ่านมาพอดี จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า โดยคว้าเสื้อผ้าของตนติดมือไปด้วย และยังทิ้งรถจักรยานยนต์เอาไว้ในที่เกิดเหตุ

ต่อมาในตอนสายวันเดียวกัน ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ขณะออกจากที่ซ่อนไปยืนรอรถโดยสาร ห่างจากจุดเกิดเหตุเล็กน้อย ทราบชื่อนายเจือ เชื้อปูคง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/4 หมู่ 8 ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลรอยเล็บข่วนหลายแห่ง สอบปากคำให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือข่มขืน น.ส.หนึ่งจริง พร้อมกันนี้ นายเจือยังให้การสารภาพอีกว่ามีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทำเหล็กดัดอยู่ที่ กทม. ได้มาเที่ยวบ้านญาติในตัวเมืองนครราชสีมา ก่อนเกิดเหตุขณะขี่รถจักรยานยนต์ กลับจากเที่ยวดื่มกินที่ห้องอาหารในตัวเมืองโคราช พบ น.ส.หนึ่งยืนรอรถอยู่คนเดียว จึงวางแผนพาไปข่มขืนกระทั่งถูกจับกุม