ฆ่าโหด2ศพคาวัด ลูกซองยิงเละผัวเมียค้าปลาชิงเงินอำพราง

ผู้การฯ เต้นสั่งตามลากคอ 2 โจรอำมหิต กระหน่ำยิงพ่อค้าปลากับเมียดับสยอง 2 ศพ 

หลังซิ่งจยย.ตามเข้าไปก่อเหตุในวัด ขณะเหยื่อมาจอดรถปิกอัพ เตรียมเอาปลากับผักไปขายในตลาดสดฝั่งตรงข้าม ซัดลูกซองดับฝ่ายชายตายคารถ ก่อนซัลโวฝ่ายหญิงที่วิ่งหนีดับเป็นศพที่สอง ตำรวจพุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์ เพราะทองรูปพรรณกับเงินสดหลายหมื่นบาทหายไป แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัวและการพนัน

เหตุกระหน่ำยิง 2 ผัวเมียครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.ท.  ชัยรัตน์ ตันติวุฒิ สวส.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี

รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในวัดแก่งคอย เขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จึงรายงาน พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.อรุณ อัครธรรม สว.สส. เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุบริเวณใกล้ศาลาธรรมสังเวช (วัชรอุทัยกุล) ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของเมรุ พบรถปิกอัพอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเลือดหมู ทะเบียน บจ 726 นคร  นายก จอดอยู่ในสภาพกระบะท้ายบรรทุกปลาสดหลากหลายชนิด และผักต่าง ๆ อยู่เต็มคัน ส่วนประตูฝั่งคนขับเปิดอ้าอยู่ โดยบนเบาะคนขับพบศพนายสมชาย พิศาภาค อายุ 51 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเบอร์ 12 เข้าที่กกหูจนใบหน้าหายไปทั้งแถบ ร่างฟุบเอนไปทางเบาะข้าง และกระจกหน้ารถถูกยิงจนแตก
 
ส่วนบนพื้นหน้าประตูทางเข้าศาลา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวรถประมาณ 3 เมตร พบศพนางเจริญ เอ้งฮัว อายุ 44 ปี ภรรยาของนายสมชาย นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่
มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนชนิดขนาดเดียวกันเข้าที่ปากและใบหน้า สภาพสยดสยองแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใน  ที่เกิดเหตุยังพบเส้นผมของนางเจริญหลุดตก อยู่เป็นหย่อม ๆ คล้ายถูกคนร้ายกระชากหรือจิก ศีรษะ ส่วนเก้าอี้พลาสติกสำหรับนั่งฟังสวดงานศพล้มระเนนระนาด และพบหมอนรองกระสุน 3 อัน กับหัวกระสุน 1 หัว ตกอยู่ รวมทั้งเศษชิ้นส่วนอวัยวะของนางเจริญ อาทิ ฟัน และมันสมอง กระจายเกลื่อนพื้น
 
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมชาย และภรรยามีบ้านพักอยู่ใน ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก มีอาชีพขายปลาและผักสดอยู่ในตลาดเทศบาลเมืองแก่งคอย มานานหลายสิบปี

ก่อนเกิดเหตุประมาณ 02.00 น. ทั้งคู่พากันขับรถไปรับปลาและผักจากตัวเมืองสระบุรี มาขายที่ตลาดดังกล่าวตามปกติทุกวัน โดยมาจอดรถภายในวัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาด หลังจอดรถเสร็จ มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจยย.สีขาวแบบผู้หญิง เข้ามาในวัด โดยคนขับสวมหมวกกันน็อกสีขาว ส่วนคนซ้อนท้ายสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า โดยคนซ้อนท้ายเดินลงไปใช้ปืนลูกซองยาว 5 นัด ยิงใส่นายสมชายเสียชีวิตคารถ ส่วนนางเจริญพยายามหลบหนีแต่ไม่พ้นถูกคนร้ายตามจิกศีรษะและเกิดการต่อสู้กัน สุดท้ายถูกคนร้ายยิงปืนเข้าใส่ 2-3 นัด ล้มฟุบเสียชีวิตเป็นศพที่สอง และรีบไปขึ้นรถ จยย.ที่เพื่อนจอดรออยู่หลบหนี
 
เบื้องต้นตำรวจมุ่งประเด็นสังหารไปที่เรื่องฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ ที่นายสมชายสวมใส่ไว้ และสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ที่นางเจริญใส่ไว้หายไป

รวมทั้งกระเป๋าเงินสีดำที่ใส่เงินสำหรับค้าขายมีเงินสดอยู่หลายหมื่นบาทหายไป แต่ประเด็นขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการพนัน ตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง โดย พล.ต.ต. อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้กำชับ ให้ตำรวจเร่งสืบสวนตามจับกุมคนร้ายที่ก่อคดีอย่างอุกอาจสะเทือนขวัญมาดำเนินคดีโดยเร็ว.