เหตุคนร้ายขว้างระเบิดถล่มวินรถตู้ในครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 เมษายน พ.ต.ต.ต่อศักดิ์ วงษ์การค้า สวป.สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุระเบิดบริเวณด้านข้างสถานีขนส่งมวลชนสระแก้วลพบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ เข้าตรวจสอบบริเวณบริษัทขนส่งมวลชนลพบุรี เลขที่ 453/3 ซึ่งเป็นอาคาร 3 ห้องติดกัน โดยทำเป็นสถานที่จำหน่ายตั๋ว และที่พักผู้โดยสาร
จากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดที่คนร้ายขว้างเข้าใส่ มีด้วยกัน 2 ลูก แรงระเบิดทำให้ประตู และผนังบริเวณที่พักผู้โดยสาร ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และนายสมาน ทรัพย์มาก อายุ 43 ปี รปภ.ของบริษัท ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แขนและขา เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลลพบุรี แต่โชคดีในช่วงเกิดเหตุไม่มีประชาชนมาใช้บริการ มีเพียงเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ดูแลอาคารได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว
ส่วนระเบิดลูกที่สองคนร้ายขว้างใส่ลานจอดรถตู้ โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีรถจอดอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อรอเวลาออกในช่วงเวลา 05.30 น. ซึ่งเป็นเที่ยวแรก แรงระเบิดทำให้รถตู้ได้รับความเสียหาย 6 คัน ทั้งกระจกแตก ยางระเบิด และถูกสะเก็ดระเบิดพรุนไปทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม รถทุกคันในลานจอดรถได้ติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวี หากถังก๊าซได้รับแรงอัด หรือประกายไฟ จนทำให้เกิดการระเบิด เชื่อว่าความเสียหายจะมีมากกว่านี้
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งปิดกิจการเพื่อปรับปรุงใหม่ โดยมีนายสรชัช คงเดช หรือเสี่ยหมู อายุ 45 ปี ได้ขอเช่าเปิดกิจการ บริษัทขนส่งมวลชนลพบุรี มาร่วมปีเศษแล้ว มีรถตู้วิ่งให้บริการประชาชนกว่า 100 คัน โดยเริ่มวิ่งเที่ยวแรกในเวลาประมาณ 05.30 น.ของทุกวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ปัจจุบันมีวินรถตู้อยู่ในพื้นที่หลายจุด แต่ละจุดล้วนแต่มีนักการเมืองท้องถิ่น และผู้กว้างขวาง เป็นเจ้าของกันแทบทั้งสิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลอบยิงกันมาแล้วหลายหน ทั้งนี้ เป็นเพราะเจ้าของวินแต่ละแห่งพยายามจะเอาใจผู้โดยสาร โดยซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาวิ่ง เพื่อแย่งชิงลูกค้า บางรายวิ่งทับเส้นทางกันหลายสาย จนอาจกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้
ด้านนายสมาน ทรัพย์มาก อายุ 43 ปี รปภ.ของบริษัท ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า หลังจากมาเข้าเวรในช่วงหัวค่ำ สังเกตว่าไม่มีเหตุการณ์ใดบ่งบอกว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น อีกทั้งตนก็ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร และไม่ทราบว่าเจ้าของบริษัทมีเรื่องอะไรกับใครมาก่อนหรือไม่ ซึ่งรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก เพราะคนร้ายขว้างระเบิดถึงสองลูกอย่างใจเย็น
"หากผมอยู่ใกล้บริเวณจุดระเบิด เชื่อว่าผมคงไม่รอดอย่างแน่นอน นี่ขนาดผมอยู่ห่างพอสมควร ยังถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แขนและขา แต่อาการไม่สาหัส ขณะนี้หูของผมเริ่มไม่ได้ยินแล้ว" นายสมานกล่าว
ขณะที่นายสรชัช เจ้าของวินรถตู้ที่ถูกปาระเบิดถล่ม กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าจะมาจากวินรถตู้คู่แข่งอย่างแน่นอน เพราะหลังจากตนเปิดให้บริการวิ่งรถตู้สายลพบุรี บ้านหมี่ โคกสำโรง กรุงเทพฯ ทำให้มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากวินรถตู้ของตนตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งสระแก้ว จึงมีผู้โดยสารมาก อีกทั้งวินรถตู้ของตนก็ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จนได้รับป้ายทะเบียนสีเหลืองทุกคัน จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
"ที่ผมมั่นใจว่าสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ มาจากคู่แข่งวินรถตู้ด้วยกัน เป็นเพราะคนร้ายมุ่งหวังทำลายแต่รถตู้ และที่พักผู้โดยสารเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่น่าจะมาจากสาเหตุอื่นอย่างแน่นอน" นายสรชัช กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนระบุว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด ทั้งนี้จะขอเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์อีกครั้ง คาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้ ส่วนการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องปัญหาส่วนตัว และธุรกิจให้บริการวิ่งรถ