ยิงดับโจรนศ. บุกงัดร้านชำ

โจรน.ศ.บุกงัดร้านชำกลางดึก ถูกเจ้าของยิงดับ เพื่อนร่วมแก๊งเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีไปตามหลังคาร้านข้างเคียง

จนกระเบื้องหลังคาร้านแตก ก่อนพลัดตกลงไปโดนรวบ สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง เจ้าของร้านเผยโดนโจรกรรมทรัพย์สินเป็นประจำ สูญเงินจำนวนมาก จนทนไม่ไหว ต้องขออนุญาตซื้อปืนมาไว้ป้องกันตัว พร้อมฝึกซ้อมยิงที่ค่ายทัพภาค 4

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.เฉลิมวัน วรรณะสถิตย์ สารวัตรเวร สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช

รับแจ้งมีคนร้ายบุกโจรกรรมทรัพย์สิน แต่ถูกเจ้าของบ้านยิงเสียชีวิตบนหลังคาร้านขายของชำ เลขที่ 129/24 ถนนทางเข้าศูนย์ราชการนาสาร หมู่ 3 ต.นาสาร อ.พระพรหม หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรช รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมโภชน์ แก้วนิรมิตร รอง ผกก.ป.สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรม ราช แพทย์เวรร.พ.มหาราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต๊กตึ้ง รุดไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบนหลังคาของร้าน พบกระ เบื้องหลังคาแตกเป็นช่องขนาดใหญ่ พบศพ นายเขมินทร์ หรือใหม่ บ่อทอง อายุ 18 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 467/1 หมู่ 6 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษาชั้น ปวช.2 สถาบันแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ใช้เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ คลุมศีรษะเป็นไอ้โม่ง สวมถุงมือสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าที่ริมฝีปากบนด้านซ้ายจนฟันหักหลายซี่และกระสุนฝังใน 1 นัด ในกระเป๋าเป้ของนายเขมินทร์พบมีดสปาร์ตาเล่มใหญ่ ยาวประมาณ 1 ศอก 2 เล่ม มีดปลายแหลมยาว 1 คืบ 1 เล่ม เชือกไนลอนสีขาวยาวกว่า 10 เมตร 1 เส้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่นายสมจิตร คงเส้ง อายุ 55 ปี เจ้า ของร้านที่เกิดเหตุ นำปืนขนาด .38 มามอบให้ตำรวจ โดยแจ้งว่าเป็นคนยิงนายเขมินทร์เสียชีวิต

ขณะเดียวกัน นางดวงสมร ชุมทองโด อายุ 39 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่ 129/25-27 ซึ่งอยู่ติดกับร้านของนายสมจิตร

แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนร้ายอีก 1 คนวิ่งหลบหนีจากหลังคาร้านของชำของนาย สมจิตรมายังร้านของชำของตน จนกระเบื้องหลังคาหน้าร้านแตกหลายแผ่น คาดว่าคนร้ายจะพลัดตกจากหลังคาลงมาในร้านขายของชำของตัวเองด้วย เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ พบกระเบื้องหลังคาแตกหลายแผ่นจนเป็นช่องกว้าง 2 จุด

เมื่อตรวจสอบในร้าน พบนายพงศธร ผดุงกาญจน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 4 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนร่วมแก๊งของนายเขมินทร์ซ่อนตัวอยู่ข้างชั้นวางของ จึงควบคุมตัวไว้

จากนั้นจึงนำศพนายเขมินทร์ส่งร.พ.มหาราช เพื่อให้แพทย์ผ่าหัวกระสุนปืนไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี พร้อมควบคุมตัวนายพงศธรมาสอบสวนที่โรงพัก ด้านนายสมจิตรกล่าวว่า ที่ผ่านมาร้านขายของชำของตนและร้านของนางดวงสมรซึ่งอยู่ติดกัน ถูกคนร้ายปีนขึ้นไปบนหลังคาก่อนจะยกกระเบื้องมุงหลังคาออก และจะหย่อนตัวลงไปในร้าน โจรกรรมทรัพย์สิน ทั้งเงินสดและสินค้าในร้านไปหลายครั้ง ครั้งหลังสุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา คนร้ายเข้าไปขโมยเงินสด 8,000 บาท และสินค้าในร้านอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงหลายรายถูกคนร้ายงัดแงะเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินจนเดือดร้อนกันไปทั่ว ตนจึงตัดสินใจขออนุญาตซื้อปืน .38 มาไว้ป้องกันตัว และป้องกันทรัพย์สิน พร้อมไปฝึกซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืนค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 เป็นประจำ

นายสมจิตรกล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนอนอยู่ในร้านได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่บนหลังคา และพยายามจะยกกระเบื้องมุงหลังคาออก

จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงสุ่มไปยังบริเวณที่ได้ยินเสียงบนหลังคาจำนวน 2 นัด กระสุนถูกนายเขมินทร์ 1 ในคนร้ายเสียชีวิตคาหลังคาร้านดังกล่าว ส่วนคนร้ายอีกคนวิ่งหนีไปบนหลังคาจนกระเบื้องมุงหลังคาร้านของนางดวงสมรที่อยู่ติดกันแตกทะลุเป็นช่องกว้าง จนนายพงศธรพลัดตกลงไปภายในร้านของนางดวงสมร ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ขณะที่นางดวงสมรกล่าวว่า หลังจาก ได้ยินเสียงปืนที่นายสมจิตรยิงคนร้าย 2 นัด ตนตกใจตื่นขึ้นมา และได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่บนหลังคาก่อนที่กระเบื้องมุงหลังคาจะแตกเสียงดัง

หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีได้ยินเสียงรถยนต์ คาดว่าจอดอยู่ริมถนนห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตรขับออกไปอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าเป็นรถของคนร้ายร่วมแก๊งอีกอย่างน้อย 1-2 คนหลบหนีไปได้ จากการสอบสวนนายพงศธรรับสารภาพว่า นายเขมินทร์มาพักอยู่กับน้าชาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาตนมาอยู่กับน้าชายของนายเขมินทร์ด้วย โดยน้าของนายเขมินทร์เป็นช่างชลประทาน และตนช่วยทำงานวางท่อระบายน้ำ ก่อนเกิดเหตุ นายเขมินทร์ชวนตนไปงัดแงะโจรกรรมทรัพย์สินที่บ้านของนายสมจิตร โดยนายเขมินทร์บอกว่าเคยเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินที่บ้านของนายสมจิตรมาแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน สามารถหาเงินได้ง่าย ตนจึงตกลงมาร่วมก่อเหตุ จนนายเขมินทร์ถูกนายสมจิตรยิงเสียชีวิตและตนถูกจับกุมดังกล่าว และร่วมก่อเหตุเพียง 2 คนเท่านั้น

พ.ต.ท.วุฒิพงศ์เปิดเผยว่า จากการสอบ สวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ร่วมก่อเหตุแค่ 2 คน

แต่ตามแนวทางการสืบสวนของตำรวจ รวมทั้งมีพยานยืนยันว่าหลังได้ยินเสียงปืนไม่นานมีรถยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมี 4-5 คน และกระทำเป็นขบวนการอย่างมืออาชีพ โดยน่าจะตระเวนเดินสายก่อเหตุในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะสอบสวนสืบสวนขยายผลต่อไป ส่วนนายสมจิตรเบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและเป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่งตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป