กองปราบฯจับแล้วคดีฆ่าล้างครัว 5 ศพกลางกรุง คนร้ายเป็น2 โชเฟอร์แท็กซี่โจร
คนหนึ่งสารภาพ-นำ ชี้จุดแล้ว ส่วนอีกคนยังไม่สารภาพ เผยคนร้ายเรียนพณิชยการธนบุรี เพื่อนร่วมรุ่นกับนักร้องอมตะ"เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์" ติดคุกคดีฆ่าคนตายออกมา แล้วชวนกัน บุกบ้านเสี่ยใหญ่ ตกลงจะเข้าไปยกเค้าอย่างเดียว ไปๆ มาๆ กลายเป็นคดีฆ่าโหดทีละคนจนหมดบ้าน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.
พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.กว่า 20 นาย ควบคุมตัวนายปริทรรศ หรือยี นุ่มน้อย อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาร่วมกับนายวันชัย หรือแดง อ้นปันส์ อายุ 58 ปี ก่อคดีฆ่านายธนายศ ปทุมวาสนา อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ พร้อมเมียและลูก 2 คน และคนใช้อีก 1 คน ในลักษณะฆ่ายกครัว 5 ศพ ภายในคฤหาสน์เลขที่ 5388 ซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 23 ถนนนวมินทร์ 111 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม มาขอขมาดวงวิญญาณของผู้ตายทั้งหมดที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากนายปริทรรศยอมรับสารภาพ และร้องขอให้เจ้าหน้าที่พามา ส่วนนายวันชัยนั่งรออยู่ในรถ เนื่องจากยังคงให้การปฏิเสธ
เมื่อมาถึงพบมีบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และคนงานในโรงงานของคนตาย มายืนรอดูหน้าผู้ต้องหาทั้งสองกว่า 30 คน
ทั้งยังตะโกนสาปแช่งและด่ากราดด้วยความแค้น พร้อมทั้งพยายามจะเข้ามารุมประชา ทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุและปิดประตูรั้วบ้านเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 จากนั้นจึงได้นำตัวนายปริทรรศเข้าไปกราบขอขมาอัฐิของผู้เสียชีวิตที่ทางญาตินำมาตั้งเอาไว้ภายในบ้าน พร้อมทั้งยังพาเดินชี้ยังห้องต่างๆ ที่นายวันชัยลงมือสังหารคนในบ้านทั้ง 5 คน จากนั้นจึงได้นำตัวส่ง สน.ลาดพร้าว เจ้าของท้องที่ที่เกิดเหตุ โดย มีพล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ. บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.อ. พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.ร่วมกันสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายปริทรรศ ให้การว่า มีอาชีพขับรถแท็กซี่ และได้รู้จักกับนายวันชัยมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากขับรถอยู่ด้วยกัน
ก่อนเกิดเหตุราว 2 อาทิตย์นายวันชัยได้ชักชวนตนให้มาทำงานด้วย โดยบอกกับตนว่าให้มาช่วยทำงานง่ายๆ งานสบาย เพียงแค่เข้าในบ้านแล้วจับเจ้าของบ้านมัดแล้วเอาทรัพย์สินเท่านั้น ซึ่งในบ้านมีเงินเป็นล้าน ในบ้านมีพ่อแม่และเด็กเล็กๆ เท่านั้น ตนเห็นว่าเป็นงานง่ายๆ จริงจึงตกลง ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ หลังจากนั้นวันที่ 4 เม.ย.นายวันชัยโทรศัพท์มาตามตน โดยให้นั่งรถแท็กซี่ไปหาที่บ้านพักย่านภาษีเจริญ ซึ่งตนก็สอบถามว่าทำไมถึงวางแผนนานจัง นายวันชัยก็ตอบว่าต้องรอให้แน่นอนก่อน
จับ2แท็กซี่โจร ฆ่ายกครัว5ศพ
นายปริทรรศกล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนพร้อมกับนายวันชัยนั่งรถแท็กซี่มาถึงที่บ้านเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. นายวันชัยลงรถแล้วกดกริ่งเรียก
จากนั้นก็มีคนรับใช้ออกมาดู นายวันชัยจึงสอบถามว่าจะมาหาเฮีย ซึ่งนายวันชัยกับคนใช้ดังกล่าวจากที่ตนสังเกตดูน่าจะรู้จักกัน เพราะดูเหมือนคุ้นเคยกัน แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร โดยคนรับใช้บอกว่าสักพักเฮียก็จะกลับแล้ว และเปิดประตูให้ตนกับนายวันชัยเข้าไปในบ้าน พอเข้าไปได้นายวันชัยก็ใช้ปืนจี้คนใช้ ก่อนใช้เชือกคล้องผ้าม่านที่ดึงออกมา มัดมือมัดเท้าและรัดคอจนนิ่งไป แล้วลากไปแขวนไว้กับลูกบิดห้องน้ำในห้องนอนคนรับใช้ที่ด้านหลังบ้าน
จากนั้นจึงเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน แล้ว ไปเคาะห้องของลูกชาย เมื่อลูกชายเจ้าของบ้านออกมาก็ผลักจนล้ม แล้วเอาเชือกผ้าม่านมัดมือมัดเท้า และให้ตนเป็นคนจับขา
แล้วนายวันชัยก็ใช้เชือกรัดคอเด็กผู้ชายจนหมดสติไป จากนั้นก็เดินไปเคาะห้องของลูกสาว เมื่อประตูเปิดออกนายวัยชัยก็ผลักลูกสาวจนล้มลงแล้วเอาปืนจ่อ แต่ลูกสาวได้เอามือปัดป้องจนถูกยิง ตนก็ถามว่าทำไมต้องยิงด้วย นายวันชัยจึงบอกไปว่าไม่ได้ตั้งใจ ปืนลั่นเอง ระหว่างนั้นตนก็เริ่มเอะใจแล้วว่าทำไมต้องยิงคนด้วย ต่อจากนั้นนายวันชัยและตนจึงเดินเข้าไปค้นภายในห้องพระ นายวันชัยให้ตนหาถุงมาใส่พระเครื่องจำนวน 2 ถุงใหญ่ เมื่อรวบรวมพระใส่ถุงแล้วก็ไม่ได้เอาไป แต่วางไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชา โดยภายในห้องนอนใหญ่ ชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน นายวันชัยได้พาตนเข้าไปสำรวจในห้อง ก็พบว่ามีเครื่องเล่นและเครื่องใช้หลายอย่าง แต่นายวันชัยเลือกที่จะหยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเท่านั้น ตนก็ถามว่าเอาไปทำไม นายวันชัยก็ตอบว่าข้างในมีข้อมูลอยู่ ตนก็ไม่ได้สอบถามอะไรต่อไป
จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เฮียเจ้าของบ้านและอาซ้อ ภรรยา เดินทางกลับมาบ้าน ตนรออยู่ที่หน้าประตู เฮียเดินเข้ามาวางลูกกุญแจที่โต๊ะ
แล้วเดินเข้าไปในครัวซึ่งนายวันชัยดักรออยู่ จนกระทั่งอาซ้อเดินเข้ามาตนจึงใช้มีดจี้ล็อกคอเอาไว้ ขู่ไม่ให้ขัดขืน แล้วใช้เชือกมัดมือเอาไว้ จังหวะนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด คาดว่านายวันชัยน่าจะยิงเฮียแล้ว แต่เพราะตนอยู่อีกห้องหนึ่งซึ่งมุมห้องบังไว้จึงทำให้มองไม่เห็น หลังจากนั้นนายวันชัยหยิบเอาโน้ตบุ๊กไป 3 ตัว โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 ตัว และเงินสดอีก 20,000 บาท
จากนั้นนายวันชัยบังคับให้อาซ้อบอกที่ซ่อนตู้เซฟ แต่อาซ้อบอกว่าไม่รู้ เพราะเฮียเป็นคนเก็บของคนเดียว
เมื่อเห็นว่าอาซ้อไม่บอกแน่นอนนายวันชัยได้พาอาซ้อเข้าไปในห้องนอนชั้นล่าง ใช้เชือกรัดคอจนตาย จากนั้นก็ได้ให้ช่วยกันค้นหาตู้เซฟ โดยเคาะดูตามผนังบ้านจนทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบ นายวันชัยกับตนจึงหยิบเอาทรัพย์สินที่ยกมาขึ้นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาท สีขาว ของผู้ตาย ออกมาจากบ้านราว 03.00 น. หลังจากนั้นนายวันชัยได้แบ่งเงินให้ตนจำนวน 10,000 บาท ส่วนของที่เหลือนายวันชัยเป็นคนเอาไป โดยนายวันชัยยังกำชับให้ตนขับรถไปทิ้งไกลๆ ตนจึงขับไปจอดไว้ที่ลานจอดรถวัดป้อมแก้ว จ.สมุทรสงคราม จากนั้นกลับมาทำงานปกติ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ ดังกล่าว
นายปริทรรศกล่าวว่า รู้สึกว่าถูกนายวันชัยหลอกใช้ เพราะพฤติกรรมของนายวันชัยเหมือนต้องการจะฆ่าคนในบ้านทั้งหมด
และค้นหาของบางอย่างมากกว่าการเข้ามาเอาทรัพย์สินเงินทองตามที่บอกไว้ ตนเองเคยเรียนอยู่พาณิชยการธนบุรี รุ่นเดียวกับเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ แต่ไปก่อเหตุยิงนักเรียนคู่อริตาย ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี 2523 ให้การรับสารภาพจึงเหลือ 33 ปี 4 เดือน แต่ติดคุกจริง 8 ปี พ้นออกจากคุกเมื่อ 2531 หลังพ้นโทษก็ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่ และได้มารู้จักกับนายวันชัยเนื่องจากขับรถแท็กซี่อู่เดียวกัน ไม่ได้รู้จักกันในคุกแต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายปริทรรศไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ ตามลำดับขั้นตอนที่ได้ให้การเอาไว้ โดยใช้เวลาราว 2 ช.ม. จึงได้นำตัวกลับมาควบคุมตัวที่สน.ลาดพร้าว
ด้านพล.ต.ต.วิมลกล่าวเปิดเผยว่า เท่าที่ฟังจากคำให้การของผู้ต้องหา และที่ผู้ต้องหาพาชี้จุด พบว่าใกล้เคียงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่สืบสวนมา เชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเป็นหนึ่งในทีมคนร้ายที่ก่อเหตุจริง แต่จะมีใครร่วมด้วยอีกหรือไม่ต้องสืบสวนต่อไป สำหรับประเด็นการสังหารยังคงมุ่งไปที่ประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนเรื่องโน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ ต้องตรวจสอบดูว่าข้อมูลข้างในมีอะไรบ้าง และเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับใครบ้าง ส่วนประเด็นเรื่องธุรกิจ นายหน้าค้าที่ดิน และเงินกู้นั้นก็ยังไม่ตัดทิ้ง และยังคงให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลต่อไป