ไฟไหม้ต้อนรับวันทำงานหลายจุด โรงงานผลิตแกลลอนน้ำมันในนิคมอุตฯ สมุทรสาครอ่วมเพลิงลุกกลางดึกวอด 500 ล้านบาท
สูญทั้งโรงงาน-เครื่องจักร ก่อนจะเปิดทำงานหลังหยุดยาว ส่วนที่อยุธยาโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ไฟผลาญออฟฟิศเสียหายกว่า 1 ล้าน สันนิษฐานเสียบปลั๊กค้างช่วงหยุดยาวจนไฟลัดวงจร
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่บริษัท น้ำมันปิโตรเลียมไทย จำกัด
เลขที่ 15/1 หมู่ 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ภายในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร จึงได้ประ สานรถดับเพลิงจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง นำรถดับเพลิงร่วม 30 คันเข้าสกัดเพลิง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นโรงงานขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากภายในโรง งานมีทั้งเม็ดพลาสติกที่ใช้ในการฉีดเป็นแกลลอนน้ำมัน วัสดุอุปกรณ์อื่นๆซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟได้ดี นอกจากนี้ยังมีเครื่องจักรกล แกลลอนน้ำมันที่ผลิตแล้วจำนวนมาก และมีน้ำมันส่วนหนึ่งอยู่ภายใน จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า โรงงานที่เกิดเหตุแห่งนี้เป็นของนายสมภพ ติงธนาธิกุล โดยในช่วงเกิดเหตุไม่มีคนงานทำงานอยู่
เนื่องจากเป็นวันหยุดในช่วงสงกรานต์ มีเพียง รปภ.ดูแลอยู่เท่านั้น และกำลังจะเปิดทำงานในวันนี้เป็นวันแรก ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากทางด้านหลังของตัวโรงงาน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและประสานรถดับเพลิงมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าเพลิงน่าจะเกิดการลุก ไหม้ขึ้นภายในโรงงานด้านหลังสุด แล้วลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็วเข้าไปยังห้องเครื่องจักร ก่อนกระจายเข้าไปในตัวอาคารหลังใหญ่
เผาวอด500ล. รง.พลาสติก
จากความรุนแรงของเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ส่งผลทำให้เครื่องจักรขนาดใหญ่จำนวน 14 เครื่อง ราคาเครื่องละ 12 ล้านบาทเสียหายยับเยิน
ขณะที่หลังคาและโครงสร้างภายในของตัวอาคารขนาดใหญ่หล่นทรุดลงมากองกับพื้น มูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่วิทยาการจะได้เข้าตรวจสอบหาหลักฐานและสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง
เวลา 03.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ ผกก.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งว่ามีเพลิงรุกไหม้อาคารสำนักงานโรงงาน ภายในบริษัท วิงฟง แอดฮีชีฟ แมนูแฟคเจอริ่ง (ปปท) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 10 ม.2 ถ.พหลโยธิน ก.ม.57 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตพลาสติกโฟมและทำธุรกิจประเภทบรรจุภัณฑ์ส่งออกนอก หลังรับแจ้งจึงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย และรถดับเพลิงจากเทศบาลลำไทรและเทศบาลลำตาเสา และหน่วยงานข้างเคียงอีกกว่า 10 คัน รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อดับเพลิง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังรุกไหม้สำนักงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงนานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบลงอย่างสิ้นเชิง รวมความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
จากการสอบพนักงานรักษาความปลอดภัย ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นวันหยุดสงกรานต์หลายวัน จึงไม่มีพนักงานมาทำงานหลายวันแล้ว ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินตรวจพื้นที่รอบโรงงาน ได้ยินเสียงระเบิดภายในสำนักงานแล้วไฟได้ลุกท่วมสำนักงานอย่างรวดเร็ว สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคงจะมีพนักงานที่ทำงานในสำนักงานดังกล่าวได้เผลอเสียบปลั๊กไฟไว้ แล้วลืมถอดออก จึงเป็นเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป