เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา (12 เม.ย.) พ.ต.ท.ชำนาญ ผลไกรเพชร สารวัตรเวร สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันตายบนถนนสายพิปูน-ทานพอ
บริเวณสี่แยกบ้านใต้ ม.4 ต.ยางค้อม อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พินิจ อำนวยพร ผกก.,แพทย์เวร โรงพยาบาลพิปูน,นายสมโชค บุญญาธิการ หน.ชป.กองปราบอาสาภาคใต้และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งฉวาง ร่วมกันรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อทำการสอบสวนและชันสูตรพลิกศพ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบศพผู้เสียชีวิตชื่อนายธานิตย์ จงจิตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.ยางค้อม อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดตายข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สภาพใหม่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณกลางแผ่นหลัง 4 รู,หัวไหล่ขวา 1 รู,ข้อมือซ้าย 1 รูและต้นคอ 1 รู จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายธานิตย์ ผู้ตายมีอาชีพทำสวนยาง ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับจากเที่ยวงานประจำปีของวัดทุ่งนาใหม่ อ.พิปูน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.
เมื่อขี่รถมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่น D4D ไม่ทราบสีและทะเบียน ไล่ตามประกบจากนั้นคนร้ายที่นั่งด้านซ้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงกระหน่ำใส่ร่างนายธานิตย์ จำนวน 7 นัดซ้อนกระสุนเจาะร่างนายธานิตย์ พรุน ตกจากรถเสียชีวิตคาถนนทันที ส่วนกลุ่มคนร้ายได้เร่งความเร็วรถยนต์กระบะขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที
สำหรับสาเหตุการไล่สังหารโหดดับกลางถนนครั้งนี้ พ.ต.อ.พินิจ อำนวยพร ผกก.สภ.พิปูน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นบุคคลผู้กว้างขวางคนหนึ่งในหมู่บ้าน และมีคู่อริมากมายซึ่งปกติผู้ตายจะระมัดระวังตัวตลอดเวลาด้วยการพกพาปืนติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัว แต่วันนี้กลับไม่ได้พกปืนติดตัวไปด้วย
โดยสาเหตุการสังหารครั้งนี้ทางตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากเรื่องการฆ่าล้างแค้นเก่าโดยเมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา
ได้มีนายสานนท์ พลัดเมือง ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตคาสวนยางในพื้นที่ อ.พิปูน ซึ่งฝ่ายคู่อริสงสัยว่า นายธานิตย์ ผู้ตายอาจจะมีส่วนพัวพันในการตายของนายสานนท์ เพราะเป็นคู่อริกันมาก่อน จึงอาจจะมีการฆ่าล้างแค้นกันก็ได้ หรืออาจจะมาจากสาเหตุโกรธแค้นในเรื่องส่วนตัวอื่นๆก็ได้เพราะผู้ตายมีคู่อริหลายรายซึ่งทางตำรวจจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป