ยิงเศรษฐีร้อยล้านนักธุรกิจมาเลย์ เจ้าของ บ.ส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและขนส่งระหว่างประเทศดับคาห้องนอน มือปืนทมิฬ อาศัยช่วงยามดึกสงัด ลอบตัดกล้องวงจรปิด ควงทูตมรณะแอบย่องเข้าห้องนอน สบโอกาสระเบิดกระสุนเจาะขมับชนิดโป้งเดียวจอดสนิท ขณะที่ ตร.มุ่งฝีมือคนใกล้ชิด รู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี จึงหลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนปมสังหารมุ่งไปที่ปมขัดแย้งธุรกิจเป็นหลัก ส่วนประเด็นส่วนตัวและชู้สาว ยังไม่ตัดทิ้งไป
บุกสังหารโหดนักธุรกิจชาวต่างชาติรายใหญ่ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 เม.ย. พ.ต.ท.สมเกียรติ โอสถาพันธ์ สวส. สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 69/23 หมู่บ้านเพชรไพลิน หมู่ 7 ต.คอหงส์ จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมเกียรติ ฤทธิ์เลื่อน ผกก. เจ้าหน้าที่วิทยาการ ภ.จว.สงขลา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพนายอึ้ง ซุน เข่ง อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านและเป็นนักธุรกิจร้อยล้านชาวมาเลเซีย เจ้าของบริษัทจ่ายฮวด ทรานท์สปอร์ต จำกัด ทำธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งไปยังมาเลเซียและธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.นาหม่อม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน จากการตรวจสอบภาย ในห้องนอนไม่มีร่องรอยถูกรื้อค้น ส่วนทรัพย์สินรวมทั้งอาวุธปืนขนาด .38 และ 9 มม.ยังอยู่ครบ จึงมอบศพให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนนางรำพึง พุทธคุณ อายุ 34 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา สามีและเพื่อน ๆ รวมทั้งญาติชาวมาเลเซีย ได้ตั้งวงดื่มสุราอยู่ภายในบ้าน จนกระทั่งกลางดึก จึงแยกย้ายกันกลับที่พัก จากนั้นได้พาสามีเข้าไปนอนในห้อง เนื่องจากเมาอย่างหนัก ก่อนที่จะแยกไปนอนกับลูกชายและลูกสาวอีกห้องหนึ่ง จนกระทั่งรุ่งเช้า จึงไปปลุกสามีและพบว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนแล้ว แต่ที่สำคัญไม่มีใครในบ้านได้ยินเสียงปืนแม้แต่คนเดียว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั้งภายในตัวบ้านและด้านนอกบ้าน พบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุ คนร้ายได้ถอดสายต่อเชื่อมวงจรออก จึงไม่สามารถ บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ มุ่งประเด็นการสังหารไปที่เรื่องของความขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจส่งออกอาหารทะเลและธุรกิจขนส่งของผู้ตาย เนื่องจากช่วง 2 เดือนก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยถูกคนร้ายตามประกบยิงมาครั้งหนึ่งแล้ว ขณะขี่รถจักรยานยนต์รอบ ๆ หมู่บ้าน แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจากกระสุนปืนด้าน ส่วนประเด็นขัดแย้งส่วนตัวหรือชู้สาว เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดทิ้งไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ น่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือรู้จักสนิทสนมกับผู้ตาย เนื่องจากรู้ทางหนีทีไล่ภายในบ้านเป็นอย่างดีและที่สำคัญประตูทางเข้าหมู่บ้านมี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราการเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง แต่คนร้ายกลับหนีรอดไปได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนปากคำญาติสนิทและคนใกล้ชิด เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ไว้ใช้เป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
บุกยิงเศรษฐีร้อยล้านดับอนาถคาบ้าน
ภาพประกอบอินเตอร์เน็ต