บทสรุป นักข่าวโดนลวนลวม ??

นายอุดม ไกรวัต นุสสรณ์ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.ต่าย (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าวสายเด็กและเยาวชน สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ร้องเรียนว่าถูก ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว แสดงพฤติกรรมลวนลาม ข่มขู่ และคุกคาม ภายในงานเลี้ยงฉลองในฝั่งประเทศกัมพูชา ว่าได้รับรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจากนายสุรเทพ ตั๊นประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ 5 ปาก ได้แก่ ปลัดอาวุโสอำเภอตาพระยา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง กำนัน และอาสาสมัคร รักษาดินแดน 2 คน ปรากฏว่าทุกคนให้ปากคำสอดคล้องกับผู้เสียหายทั้งหมด มีเพียงผู้ถูกกล่าวหาที่ยังยืนกรานปฏิเสธ ซึ่งตนจะส่งสำนวนการสอบข้อเท็จจริง ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป คาดว่าจะใช้บุคคลนอกพื้นที่เป็นคณะกรรมการ

ข้อสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีข้อมูลเชื่อว่า ผอ.คนดังกล่าวมีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 94 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ระบุว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าประพฤติชั่ว หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ โดยตนจะนำรายงานสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอนายจาตุรนต์รับทราบต่อไป อย่างไร ก็ดี ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิหาพยานมายืนยัน และหักล้างกับสิ่งที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสรุปมา ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต้องพิจารณา รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่ถูกกล่าวหาด้วย อาจรวมไปถึงพฤติกรรมที่ผ่าน ๆ มาด้วย

ได้สั่งการให้ผู้บริหาร สพฐ. มีคำสั่งย้าย ผอ.คนดังกล่าวออกนอกพื้นที่เป็นการชั่วคราวแล้ว คาดว่าคำสั่งย้ายจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.นี้ และขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีมวยล้มแน่นอน คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง เข้มงวด และเด็ดขาด เพราะถ้ามีพฤติกรรมอย่างที่เป็นข่าวจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียหายมาก และจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ ส่วนกรณี ผอ.ที่ถูกกล่าวหาแจ้งความกลับผู้สื่อข่าวที่ร้องเรียนข้อหาให้การเท็จและหมิ่นประมาท ต้องว่ากันไปตามกฎหมายควบคู่ไปกับการดำเนินการสอบสวนทางวินัย

รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพราะตลอดชีวิตที่รับราชการมาเพิ่งจะพบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะทำกันรุนแรงอย่างนี้ รู้สึก ปลงไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ข่าวลงไปทั่วประเทศโดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงจากตน ควรต้องมีความรับผิดชอบกันบ้าง ตนอับอายเสียหาย ลงข่าวกันเกินความจริง พอตนพูดตอบโต้กลับไม่ลงข่าวให้ อย่างนี้จะให้ตนนิ่งดูดายได้อย่างไร ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายความแก้ต่างอยู่ ตนขอยืนยันในความบริสุทธิ์และพร้อมให้ตรวจสอบตลอดเวลา.


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์