โจรเหี้ยมยิงเข้าเบ้าตานัดเดียวจอดสนิท !!!!

พ.ต.ท.บุญธรรม อุทธัม สารวัตรเวร สภ.อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงไปเสียชีวิตที่ รพ.ทุ่งใหญ่ จึงรายงาน ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐ ริยาพันธ์ ผกก. พ.ต.ท.นิติธร ตันเสรีสกุล รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.ณัฐศิษฏ์ มีนะกนิษฐ์ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.ณรงค์ เชาวลิต สวป. พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่สว.สส. และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิไต้เต็กตึ๊งทุ่งใหญ่ ทราบผู้เสียชีวิตชื่อนายวิรัตน์ คล้ายทอง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 617 หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ ลักษณะศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอตสีน้ำตาลเขียว กางเกงสแล็กขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าเบ้าตาขวา 1 นัด กระสุนฝังใน และกลางหลัง 4 นัด ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าตึกแถวที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงตกแต่ง ภายในตลาดท่ายาง เขตเทศบาลตำบลท่ายาง ซึ่งเป็นย่านชุมชน พบกองเลือดหลายกอง และหัวกระสุนปืน .38 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นายวิรัตน์เป็นเจ้าของกิจการรถตู้โดยสารสายทุ่งใหญ่-ทุ่งสง และธุรกิจรับซื้อไม้ยางพารารายใหญ่ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันนายวิรัตน์พร้อมนางกิ้มห้วย คล้ายทอง ภรรยา ได้ออกจากบ้านไปที่ตึกแถวเกิดเหตุเพื่อดูความคืบหน้างานปรับปรุงตกแต่งภายในที่จะใช้เป็นสำนักงานคิวรถตู้โดยสาร และจุดรับซื้อไม้ยางพารา มีกำหนดจะเปิดในเร็วๆนี้ ระหว่างนายวิรัตน์นั่งตรงม้าหินอ่อนหันหลังให้กับถนนดูช่างตกแต่งตัวอาคารอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดริมถนนด้านหน้า โดยชายที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งทำหน้าที่มือปืนได้ตะโกนเรียกชื่อนายวิรัตน์ เมื่อผู้ตายหันไปมองคนร้ายได้ชักปืนพกออกมายิงใส่ 1 นัด เข้าเบ้าตา นายวิรัตน์หันหลังพยายามวิ่งหนี คนร้ายไม่ปล่อยให้หลุดมือใช้ปืนกระบอกเดียวกันกระหน่ำยิงซ้ำเข้าใส่ ด้านหลังอีก 4 นัด ล้มทรุดลงกับพื้น ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.เขาพนม จ.กระบี่ นางกิ้มห้วยและคนงานช่วยกันนำร่างนายวิรัตน์ส่ง รพ. แต่เนื่องจากกระสุนถูกจุดสำคัญของร่างกาย เสียชีวิตระหว่างทาง

คือประเด็นแรกความแค้นส่วนตัว ทราบว่านายวิรัตน์เป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีเรื่องไม่ลงรอยกับคนใกล้ชิดคนหนึ่ง ถึงขนาดมีผู้ใหญ่ในพื้นที่ยื่นมือเข้ามาเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เชื่อว่าอีกฝ่ายยังผูกใจเจ็บ ชิงลงมือสังหาร

ประเด็นที่ 2
ขัดแย้งธุรกิจรถตู้ โดยทราบว่าผู้ตายมีรถตู้โดยสารหลายคัน และกำลังขยายกิจการเปิดคิวรถแห่งใหม่ อาจจะทำให้คู่แข่งเสียผลประโยชน์ กลายเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การสังหาร

ประเด็นสุดท้าย
ขัดผลประโยชน์เรื่องธุรกิจรับซื้อไม้ยางพารา อาจเป็นไปได้เช่นกันว่าในการรับซื้อไม้ยางพารามีการแย่งตัดราคากับคู่แข่ง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจส่งคนมายิงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ส่วนสาเหตุที่ชัดเจนตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ