จ่อยิงผช.ผู้ใหญ่บ้านดับ ปมขัดแย้งไม้ยางพารา

เมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา (5 เม.ย.) พ.ต.ท.ประเสริฐ ส่งแสง สารวัตรเวร สภ.เมืองตรัง

รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันตาย ข้างบ้านเลขที่ 146 ม.10 บ้านลำสอ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ห่างจากป้อมตำรวจประจำ ต.น้ำผุด ประมาณ 100 เมตร หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก. พ.ต.ท.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด สว.สส. พ.ต.ต.อรรถพล วิภาศินนท์ สวป. ร.ต.ท.เอกลักษณ์ จิตรชาญวิชัย รอง สว.สส. นายละออง รามพูล กำนัน ต.น้ำผุด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง แพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง รุดไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ  

เมื่อไปถึงพบชาวบ้านนับร้อยกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกกั้นออกห่าง

พบว่าตรงบริเวณทางเท้าปากประตูหลังบ้านดังกล่าว พบศพผู้ตาย ทราบชื่อ นายพิศ เสนี หรือ “ขลุด” อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 ม.10 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ทราบว่ามีตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.น้ำผุด สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดที่เจิ่งนองกระจายไปตามพื้น สวมเสื้อลายตาหมากรุกสีขาวคาดเทา นุ่งกางเกงขาวยาวสีกากี ผ้าขาวผ้าสีแดงคาดพุง พบมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.380 เข้าที่ศีรษะ 2 นัด เบ้าตาซ้าย ลำคอ หน้าท้อง เอว และข้อมือซ้าย รวมทั้งหมด 7 นัด เสียชีวิตคาที่  

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายนั่งเล่นไพ่ผ่องไทยอยู่กับพวกพ้องหลังบ้านที่เหตุ

ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อ บอกให้คนมาตามว่ามีคนมาธุระ โดยระหว่างที่ผู้ตายเดินออกมาได้มีคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมายืนดักรออยู่แล้วที่ปากประตูหลังบ้าน ก่อนลั่นจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยม หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนสตาร์ทเครื่องรออยู่แล้ว เร่งเครื่องขับหลบหนีเข้ามาในตัวเมืองตรัง  

ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ประเด็นการสังหารโหดครั้งนี้ น่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว

โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2547 น้องชายผู้ตายเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รายหนึ่งยิงเสียชีวิต ซึ่งปัญหายังคงเคลียร์กันไม่จบยังมีการอาฆาตแค้นกันอยู่ ส่วนอีกประเด็น คือขัดแย้งธุรกิจทำไม้ยางพารา ซึ่งผู้ตายเป็นผู้กว้างขวางในแวดวงธุรกิจดังกล่าว โดยมีรถแทรกเตอร์เป็นของตัวเอง จึงอาจจะไปขัดแย้งกับคู่แข่งเรื่องรับเหมาตัดราคาไม้ยางจึงถูกส่งมือปืนตามมายิงกำจัดให้พ้นเส้นทางประโยชน์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนและเรียกบุคคลใกล้ชิดมาสอบถามเพื่อติดตามตัวคนร้ายและผู้บางการมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว.