เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เกิดเหตุสลด ลูกสะใภ้เจ้าของโรงสีในจังหวัดนครสวรรค์ถูกสุนัขพิตต์บูลรุมกัดเละเป็นศพ
โดยสุนัขไทยที่เข้าไปช่วยเจ้านายถูกสุนัขพิตต์บูลกัดตายไปด้วย ด้านแม่สามีอุ้มหลานไปตามหา ถูกรุมซ้ำ ลูกชายไปช่วยโดนกัดอีก ต้องยิงสุนัขตาย 2 ตัว เหตุกัดสยองครั้งนี้เกิดขึ้นกลางดึก ที่โรงสีไฟท่าข้าวทวีพร อ.ท่าตะโก ร.ต.ท.เรวัติ ศิริตื้นลี พสง.สบ.1 สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเหตุช่วงตี 2 ว่า มีผู้ถูกสุนัขกัดจนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย จึงไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลท่าตะโก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพนางรักษิณา เตชวัฒนบำรุงกิจ อายุ 37 ปี ลูกสะใภ้ของเจ้าของโรงสี สภาพศพมีแผลเหวะหวะ
เนื่องจากถูกสุนัขพันธุ์พิตต์บลูเทอร์เรียจำนวน 3 ตัวรุมกัดจนเสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 3 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลท่าตะโก คือ นางเจริญศรี หรือเจ๊หล่าน หล่อเลิศรัตน์ อายุ 53 ปี เจ้าของบริษัท ถูกสุนัขกัดศีรษะด้านหลัง ใบหูซ้าย แขนซ้าย-ขวา อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล นายสาธิต หล่อเลิศรัตน์ อายุ 33 ปี ลูกชายของนางเจริญศรี และมีศักดิ์เป็นน้องสามีของนางสาวรักษิณาผู้เสียชีวิต ถูกสุนัขกัดเข้าที่แขนซ้ายและที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง และเด็กหญิงทวีพันธ์หรือน้องแอปเปิ้ล หล่อเลิศรัตน์ อายุ 1 ปี 8 เดือน ลูกสาวของนางสาวรักษิณา ถูกสุนัขกัดศีรษะบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นางเจริญศรี ให้การว่า ที่โรงสีมีพื้นที่กว้างกว่า 100 ไร่ และต้องเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อป้องกันขโมย
เลี้ยงไว้รวมทั้งหมด 11 ตัว เป็นสุนัขพันธุ์ไทย จำนวน 7 ตัว พันธุ์อเมริกันพิตต์บลูเทอร์เรีย จำนวน 4 ตัว โดยปกติจะปล่อยสุนัขเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. วันเกิดเหตุมีงานยุ่งเลยไปปล่อยสุนัขช้ากว่าปกติ โดยเวลาประมาณ 24.00 น. นางสาวรักษิณา ลูกสะใภ้ออกจากบ้านลงไปตรวจดูความเรียบร้อยรอบๆ โรงสีและเห็นว่าสุนัขยังไม่ได้ปล่อยออกจากกรงที่อยู่ด้านหลังสำนักงาน จึงได้ปล่อยสุนัขทั้งหมดออกมา ปรากฏว่า สุนัขพันธุ์อเมริกันพิตต์บลูเทอร์เรียทั้ง 3 ตัวรุมกัดจนเสียชีวิต โดยไม่มีใครทราบ และเจ้าแจ๊ค สุนัขพันธุ์ไทยสีขาวคงเข้าไปช่วยและถูกรุมกัดจนเสียชีวิตไปด้วย
ต่อมานางเจริญศรี เห็นว่า นางรักษิณาหายไป น้องแอปเปิ้ลร้องหาแม่ จึงอุ้มหลานออกไปเดินหาแม่ เมื่อมาถึงด้านหลังสำนักงาน ตนเองก็ถูกสุนัขทั้ง 3 ตัวรุมกัด
ตนเองสู้ไม่ได้จึงรีบนำหลานใส่ไว้ในกระบะรถยนต์ และร้องเรียกให้คนช่วย โดย รตต.เสกศึก หล่อเลิศรัตน์ สามีตนเองพร้อมลูกชายชื่อนายสาธิต ลงมาช่วยแต่สุนัขทั้ง 3 ตัวไม่ยอมหยุดกัด ร.ต.ต.เสกศึกจึงใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงสุนัขทั้ง 3 ตัว ยิงถูกสุนัขชื่อจูม่ง และแพนด้าตาย ส่วนสุนัขที่ชื่อโคล่าวิ่งหนีหายไปจากโรงสี นางเจริญศรีกล่าวถึงสุนัขที่เหลือว่า สุนัขพันธุ์พิตต์บลูที่เหลือจะเลิกเลี้ยงและคิดว่าจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยเท่านั้น