ความคืบหน้ากรณีนายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปีและ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย
เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน. ตลิ่งชัน ว่าถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรรโชกทรัพย์ภายในลานจอดรถขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม 2 ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน. ตลิ่งชัน โดยทั้งคู่พยายามหลบผู้สื่อข่าวและไม่ให้สัมภาษณ์ ใดๆทั้งสิ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.วราพงษ์เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
เบื้องต้นในชั้นการสอบสวนทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าวันเกิดเหตุอยู่ในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่จริง โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น กรณีนี้พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจในการออกหมายจับหรือดำเนินคดีใดๆเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจมีหน้าที่เพียงแค่รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งเรื่องทั้งหมดให้ ปปช.เป็นผู้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เท่าที่ทราบขณะนี้ พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ ได้ทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ ด.ต.ถวิลออกจากราชการไว้ก่อน ส่วน ด.ต.ธนะชัยยังไม่ทราบว่าต้นสังกัดดำเนินการอย่างไร หลังจากนี้จะให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนปล่อยตัวไปเพราะไม่มีอำนาจในการควบคุมตัว และจะส่งเรื่องไปให้ ปปช.ภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ซึ่งได้กำชับให้ พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน สรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้และจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ล่าสุดได้ข้อมูลว่ายังมีแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ยังหลงเหลืออยู่ในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งได้สั่งให้มีการตรวจสอบแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพนักงานในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ผู้หนึ่งว่า ขณะนี้มีตำรวจสายตรวจยศ ส.ต.ท.และนายดาบตำรวจจราจร ของ สน.แห่งหนึ่ง ในย่านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตั้งตัวเป็นแก๊งชิงทรัพย์
โดยนายดาบตำรวจจะขับรถแท็กซี่สีเหลืองแดง เลือกเหยื่อที่เป็นแรงงานพม่า พาไปในที่ลับตาคนและปลอดจากกล้องวงจรปิดในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ แล้วร่วมกับ ส.ต.ท.นอกรีตชิงทรัพย์เงินสดและโทรศัพท์มือถือ บางครั้งเหยื่อที่เป็นผู้หญิงบางคนอาจจะถูกขืนใจและปลดทรัพย์ โดยโทรศัพท์มือถือที่ได้ไปจะถูกนำไปขายบนชั้น 3 ที่เปิดเป็นพลาซ่า ที่ผ่านมามักไม่มีการแจ้งความ เนื่องจากเหยื่อเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แก๊งนี้จึงเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
