เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 30 มีนาคม 2552 ร.ต.อ.ธรากร สกุลปิยะเทวัญ ร้อยเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งเหตุคนขับรถบรรทุกถูกกลุ่มวัยรุ่นปาหินเข้าใส่รถ ที่บริเวณก่อนถึงด่านชั่ง 356 บนถนนสาย 347 บางปะหัน – ปทุมธานี ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 10 ล้อ สีเขียวคาดขาว หมายเลขทะเบียน 81 – 8740 พระนครศรีอยุธยา ถูกปาด้วยก้อนหินขนาดใหญ่เข้าที่ตรงกลางกระจกด้านหน้ารถ
ทำให้กระจกด้านหน้าเป็นรูขนาดใหญ่ และกระจกด้านหน้าเป็นรอยร้าวทั้งหมด ตำรวจจึงนำรถคันที่ได้รับความเสียหายมาจอดที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ของหจก. ต.ปราสาทเพชร จำกัด เลขที่ 105 ม.8 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยพบก้อนหินตกอยู่ในรถขนาดใหญ่กว่ากำปั้นหนักประมาณ ครึ่งกิโลกรัม พบคนขับรถ คือ นายจรูญ ตรีภณี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.3 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้รับบาดเจ็บ และนายจีระศักดิ์ วงศ์พระจันทร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นั่งคู่เบาะหน้ามาด้วย ถูกก้อนหินกระแทกเข้าที่หน้าอกนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เย็บ 2 เข็ม ส่วนที่ท้องมีรอยถลอกเพราะแรงกระแทกจากก้อนหิน และที่นิ้วโป้งมือขวา ถูกกระจกหน้ารถที่แตกบาด แพทย์ทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ก่อนให้ตำรวจนำตัวไปสอบสวน
คนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวให้การกับตำรวจว่า ขับรถบรรทุกทรายมาจาก อ.บางบาล กำลังมุ่งหน้าเข้า จ.ปทุมธานี
ก่อนถึงที่เกิดเหตุ แวะพักเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าว โดยระหว่างที่อยู่ในปั๊มมีรถหลายคันแวะเติมน้ำมัน และได้ขับรถออกมาตามถนนสาย 347 บางปะหัน – ปทุมธานี ก่อนถึงด่านชั่ง 356 มีรถจักรยานยนต์ สีขาวขับสวนมา และใช้ก้อนหินปาเข้าใส่กระจกรถจนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใคร
ด้าน นายธีระพันธ์ อุตรชน อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ม.1 ต.กุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานปั๊มน้ำมัน เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกคันดังกล่าวเข้ามาที่ปั๊มน้ำมันจำนวนหลายคัน
และ 1 ในนั้น คือคันที่ถูกปา เข้ามาจอด ประกอบกับเป็นช่วงเดียวกันกับมีวัยรุ่นชายสูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกกันน๊อค และผู้หญิงซึ่งเป็นคนซ้อน สูงประมาณ 160 ซม. ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาว เข้ามาเติมน้ำมันภายในปั๊มดังกล่าว ทันใดนั้นได้ยินเสียงในกลุ่มคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ผิวปากและมองไปที่หญิงสาวที่นั่งซ้อนท้ายมา ก่อนที่รถจักรยานยนต์จะแล่นออกจากปั๊มไป จากนั้นไม่นานกลุ่มรถบรรทุกก็ขับรถออกไปจากปั๊มเช่นกัน
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ระดมกำลังตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม ออกตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยในพื้นที่ทั้งหมด
พร้อมขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันบันทึกได้ พบว่าสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเป็นไปตามคำบอกเล่าของพนักงานเติมน้ำมันของปั๊มดังกล่าว ที่ว่า ชาย – หญิง ขับขี่รถจักรยานยนต์อาจจะโกรธแค้นกลุ่มคนขับรถบรรทุก ที่ผิวปาก จนคิดว่าจะเป็นการแซวหญิงสาวที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย จนทำให้เกิดการเข้าใจผิด จึงทำให้ฝ่ายชายโกรธแค้น จึงย้อนกลับไปดักปาหนใส่รถบรรทุก ส่วนภาพชาย – หญิง ที่ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีขาว ต้องสงสัยนั้นยังไม่ชัดเจนมากนัก จะต้องนำไปตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จะต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสรุปได้ว่าสาเหตุของการปาหินในครั้งนี้ มาจากเรื่องใด สำหรับคดีปาหินในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างหายไปนานเกือบ 2 เดือน โดยครั้งนี้เกิดขึ้นกับรถบรรทุกและยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากเรื่องใด.