อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเครียดเรื่องปัญหาหนี้สินก่อเหตุสลดใจใช้ปืนยิงภรรยาและตัวเองเสียชีวิต
ส่วนลูกสาวสาหัสรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.ชุมพล สานพคุณ สารวัตรเวร สภ.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงบาดเจ็บหลายราย ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 6 ต.แก้มอ้น จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบกองเลือดจำนวนมาก ปืนยาว .22 ปลอกกระสุนคารังเพลิง 1 ปลอก และตกที่พื้นอีก 3 ปลอก แมกกาซีนมีกระสุนเหลืออยู่ 4 นัด นอกจากนี้ยังพบสายไฟยาว 5 เมตร ปลายอีกด้านมีปลั๊ก ส่วนปลายอีกด้านปอกเปลือกมีลวดทองแดงโผล่ออกมา ลักษณะเตรียมเสียบเข้ากับปลั๊กไฟของบ้าน พื้นห้องยังเปียกแฉะไปด้วยน้ำ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ก่อนหน้าแล้ว โดย 2 รายแรกนำส่ง รพ.ด่านมะขามเตี้ย อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมาทราบชื่อนายสมโภชน์ มัชมี อายุ 39 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.แก้มอ้น และประธานกองทุนหมู่บ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน .22 บริเวณศีรษะด้านขวา 1 นัด นางศิริพร พงเพา อายุ 38 ปี ภรรยานายสมโภชน์ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันบริเวณศีรษะ 1 นัด ส่วนอีกรายแยกส่งไปที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชจอมบึง จ.ราชบุรี ทราบชื่อ ด.ญ.สมฤดี มัชมี อายุ 8 ขวบ ลูกสาวของนายสมโภชน์กับนางศิริพร มีบาดแผลถูกยิงบริเวณริมฝีปากขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด ลักษณะจ่อยิง อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน แพทย์นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน
ตำรวจสอบปากคำญาติพี่น้องได้ความว่า นายสมโภชน์อยู่กินกับนางศิริพรมานานหลายปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
คือ ด.ญ.สมฤดี ก่อนหน้านี้นายสมโภชน์ซึ่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านได้นำเงินกองทุนจำนวนมากไปลงทุนเปิดร้านขายของชำและร้านอาหารตามสั่ง แต่ประสบภาวะขาดทุน ต้องหันไปกู้เงินนอกระบบมาพยุงธุรกิจแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จทำให้มีหนี้สินจำนวนมาก ระยะหลังทั้งคู่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเรื่องปัญหาหนี้สิน กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันเกิดเหตุเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรงอีกครั้งเกี่ยวกับปัญหาเดิม จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังติดต่อขึ้นหลายนัด เมื่อวิ่งออกไปดูพบร่างนายสมโภชน์ นางศิริพร และลูกสาว ถูกยิงนอนจมกองเลือด จึงนำส่ง รพ. พร้อมแจ้งให้ตำรวจทราบ
คำให้การรวมทั้งพยานหลักฐานตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่านายสมโภชน์น่าจะมีการเตรียมการก่อเหตุมาก่อน
โดยสังเกตได้จากสายไฟที่พบในที่เกิดเหตุ อาจเป็นไปได้ว่านายสมโภชน์เตรียมแผนใช้ไฟช็อตตนเองและคนในครอบครัวหวังตายหมู่ แต่ภายหลังเปลี่ยนใจใช้ปืนยิงนางศิริพรเสียชีวิต จากนั้นหันไปยิงลูกสาวลักษณะกรอกปากเป็นรายที่สอง นายสมโภชน์คิดว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้วจึงใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองหนีความผิด เบื้องต้นตำรวจมอบศพให้ญาติรับกลับไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลต่อไป