ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชน และสตรี (บก.ปดส.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มี.ค.
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปดส. ร่วมกับนายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แถลงข่าวจับกุมตัวนายสมศักดิ์ เจือจันทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 17 ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ นายสมชาติ หรือธนกฤต นาคบรรจง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/10 หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนางปัญจาภรณ์ หรือสำรวย สายแฉ่ง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/14 หมู่ 2 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันจัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 2 แสนบาท ส่วนนายสมศักดิ์ เจือจันทร์ เพิ่มข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำ การเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจและการกระทำการนั้น
สวมคราบอธิบดีต้ม ส่งแรงงานไปแคนาดา
นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า
การร่วมมือจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้เสียหายชื่อ “น้ำ” สอบถามถึงเรื่องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศแคนาดา ตามที่ได้พูดคุยตกลงกันไว้เมื่อตอนที่พบกันย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ด้วยความสงสัยจึงสอบถามกลับไปว่าได้เบอร์โทรศัพท์ของตนมาจากใคร ผู้เสียหายบอกว่าตนเป็นคนให้เอง จึงเอะใจให้พูดคุยกับเลขานุการส่วนตัว สอบถามเรื่องราวรายละเอียด กระทั่งทราบว่ามีคนแอบอ้างตัวเป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน ต้องการแรงงานหลายตำแหน่งไปทำงานที่ประเทศแคนาดาและสิงคโปร์ จึงมอบหมายให้ผู้อำนวยการกองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กระทรวงแรงงาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้แอบอ้างดังกล่าวกับ บก.ปดส. กระทั่งตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวว่า
พฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะใช้วิธีหลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถส่งไปทำงานยังต่างประเทศได้ โดยขณะนี้ต้องการคนงานประมาณ 3 พันคน ไปทำงานก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ประเทศแคนาดา ค่าจ้างวันละ 2,800-9,000 บาท และเมื่อวันที่ 19 พ.ย.51 ผู้ต้องหาได้นัดคนงานประมาณ 300 คน ไปพบที่สถานทดสอบฝีมือแรงงาน เค.ที.ซี. เลขที่ 37/8 หมู่ 3 ถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
จากนั้นนายสมศักดิ์ได้แอบอ้างตัวกับคนงานที่เดินทางไปทดสอบฝีมือว่าเป็นอธิบดีกรม การจัดหางาน สามารถจัดส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศ ได้จริง พร้อมกับแจกประกาศของกรมการจัดหางาน เรื่องรายชื่อองค์กรหรือคณะบุคคลที่สามารถส่งคนงานไปทำงานในประเทศแคนาดา และหมายเลขโทรศัพท์ของตนไว้ แต่จะเรียกเก็บค่าบริการจัดหางานคนละ 1.5 แสนบาท โดยให้จ่ายค่าจัดทำวีซ่าก่อนคนละ 18,000 บาท แต่หลังจากวันสมัครผ่านพ้นไป 3 สัปดาห์ ผู้ต้องหากลับเงียบหายไป ผู้เสียหายเอะใจเห็นว่านานผิดปกติ จึงโทรศัพท์ ไปสอบถามกับตน ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ จึงทำให้รู้ว่ามีผู้แอบอ้างชื่อตนไปหลอกลวงส่งคนงานไปต่างประเทศ
ทั้งนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ คือนายไพฑูรย์ โพทนัน อายุ 53 ปี
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่ ที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนเป็นระยะๆว่าถูกหลอกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศแคนาดาซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานและต้องทำวีซ่า ผ่านขั้นตอนการอนุญาตจากเอกอัครราชทูตประเทศแคนาดาเสียก่อนจึงจะได้ไป
ดังนั้น หากใครคิดจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ หรือไม่แน่ใจว่าถูกหลอก ให้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1694 จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ ในเบื้องต้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ โดยนายสมศักดิ์อ้างว่ามีบริษัทจัดหางานไปต่างประเทศจริง แต่ไม่เคยแอบอ้างตัวเป็นนายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน ที่ผ่านมาแค่เรียกมาประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการจัดหางานเท่านั้น ซึ่งตนก็รู้จักกับนายพิชัยมาก่อน เพราะเคยเป็นนักข่าวประจำกระทรวงแรงงาน หนังสือพิมพ์ธุรกิจแรงงาน จึงไม่มีความจำเป็นต้องแอบอ้าง สำหรับบริษัทจัดหางานของนายสมศักดิ์ เจือจันทร์ ชื่อบริษัท เทรนนิ่งไทย-ญี่ปุ่น จำกัด ใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.51 จึงไม่มีสิทธิจัดหาแรงงานไปทำงานต่างประเทศได้