เมื่อเที่ยงวันที่ 29 มี.ค. ร.ต.ท.วิชิต จันทร์หอม พงส.(สบ 1) สน.ท่าข้าม
รับแจ้งเหตุพบศพภายในห้องเลขที่ 504 ชั้น 5 สีฟ้าอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 43/358 ซอยพระราม 2 แยก 50 หรือซอยวัดกำแพง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ฝั่งธนบุรี ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ยุคลเดช ตันสกุล ผกก.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐาน และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักให้เช่าสูง 5 ชั้น ภายในห้องดังกล่าวพบศพ น.ส.ประมวล อินทร์ทะมาตย์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 11 ต.เก่าขาม อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พนักงานฝ่ายผลิต บริษัท เอฟ.พี. คัสตอมแพ็ค จำกัด ย่านวุฒากาศ โรงงานผลิตกล่องบรรจุจิวเวลรี่
นอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางห้อง นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีเหลืองลายขาว เสื้อกล้ามสีขาว มีบาดแผลสยองขวัญ ถูกสับใบหน้าเละ ปลายจมูกหายไป ริมฝีปากบนแหว่ง ฟันบนหักร่วง 4 ซี่ ลำคอถูกเชือดจนหลอดลมขาดวิ่น ส่วนลูกนัยน์ตาทั้งสองข้างถูกมีดแทงทะลุเบ้าตาเป็นที่น่าสยดสยอง รวมแล้ว 22 แผล นอกจากนี้ ตามเนื้อตัวยังมีร่องรอยคมมีดบาดอีกหลายแห่ง เลือดไหลนองท่วมพื้นห้อง สภาพศพเริ่มเน่าอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ส่วนทรัพย์สินภายในห้องถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย
จากการสอบสวนนายนิกร กุดแถลง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ หัวหน้างานฝ่ายผลิตบริษัทเดียวกับผู้ตาย ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุไปหาผู้ตายที่ห้องพัก เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ผู้ตายขาดงานไปโดยไม่ได้ลา และติดต่อไม่ได้ เมื่อไปตามที่ห้องพบประตูล็อกและมีกลิ่นเน่าโชยคลุ้งออกมา จึงแจ้งตำรวจ เท่าที่ทราบผู้ตายมีแฟนหนุ่ม อาชีพขี่รถ จยย.รับจ้าง วินห้างเซ็นทรัล พระราม 2 เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีปัญหาทะเลาะกับแฟนจนมีอาการเซื่องซึมไม่ยอมพูดจากับใคร จากการสอบถามเพื่อนที่ไปส่งผู้ตายกลับห้องพักเมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ทราบว่าแฟนหนุ่มของผู้ตายเข้าไปนั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายได้นำสร้อยคอทองคำฝากให้ตนไปจำนำ ได้เงินมาประมาณ 1 หมื่นบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนคืนสิ้นเดือน มี.ค.นี้ โดยผู้ตายบอกว่าได้เก็บเงินเตรียมไว้ไถ่ถอนแล้วจำนวน 7,000 บาท แต่จากการตรวจสอบพบว่าเงินสดดังกล่าวหายไป พร้อมสร้อยข้อมือทองคำหนัก 50 สตางค์ แหวนทองหนัก 1 สลึง และโทรศัพท์มือถือ
ขณะเดียวกัน เพื่อนข้างห้องให้การกับตำรวจว่า
ผู้ตายพักอยู่คนเดียว แต่จะเห็นหนุ่ม จยย.รับจ้างแวะไปหาอาทิตย์ละครั้ง และเมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ประมาณตี 3 ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องคล้ายถูกทำร้าย แต่ ไม่ได้เอะใจ เบื้องต้นตำรวจคาดว่ามือสังหารโหดน่าจะเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตาย ทะเลาะกันก่อนฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนที่ต้องใช้มีดแทงทะลุลูกนัยน์ตา คงเป็นความเชื่อส่วนบุคคลในเรื่องไสยศาสตร์ ฆ่าสะกดวิญญาณไม่ให้ตำรวจติดตามตัวได้นั่นเอง โดยตำรวจติดตามล่าตัวแฟนหนุ่มของผู้ตายแล้ว แต่ยังไม่พบตัว