"นายศุภวัฒน์เป็นคนฆ่าแฟนสาวของเขาเอง ผมแค่มาเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้น ทั้งคู่มาเปิดโรงแรมเพื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจกัน แต่ผมไม่ได้เข้าไปในห้องด้วย พอสักพักนายศุภวัฒน์ก็เปิดประตูออกมา พาผมเข้าไปในห้องจึงพบว่าเขาฆ่าแฟนสาวตายแล้ว หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนีก่อนถูกจับได้ในภายหลัง"
คือ คำรับสารภาพของนายเผด็จ ช่างสี อายุ 26 ปี ที่ร่วมกับนายศุภวัฒน์ โสภา อายุ 25 ปี ก่อเหตุสังหารน.ส.จิราภรณ์ มูลตระกูล อายุ 21 ปี นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี แฟนสาวของนายศุภวัฒน์ จนสิ้นใจตาย ทิ้งศพหมกโรงแรมม่านรูด "บังกะโลริมน้ำ" กลางเมืองศรีสะเกษอย่างน่าสลดใจ
เหยื่อสาวถูกฆ่าเอาเงินยัดปากสะกดวิญญาณไว้!!
งานนี้ตำรวจจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ทันควัน หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางโรงแรมที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ชัดเจน จึงเห็นทุกพฤติกรรมของนายเผด็จกับนายศุภวัฒน์ ที่ลวงเหยื่อสาวมาฆาตกรรม
เท่านั้นประตูคุกก็เปิดกว้าง
ย้อนหลังไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนตี 1 วันที่ 16 มีนาคม ตำรวจโรงพักเมืองศรีสะเกษ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่โรงแรมม่านรูด "บังกะโลริมน้ำ" ข้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.ประจวบ จันทรประวิทย์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมกำลังจึงรุดไปตรวจสอบ
วงจรปิดจับมือฆ่า หมกศพสาวราชภัฏ เงินยัดปาก-สะกดวิญญาณ
เกิดเหตุร้ายขึ้นแล้วที่โรงแรมแห่งนี้!!
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ห้องพัก ห้องที่ 17 จุดเกิดหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กรล 101 ศรีสะเกษ จอดอยู่หน้าห้อง ภายในห้องพบศพ "จิราภรณ์ มูลตระกูล" อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 2 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถูกฆ่าตายในสภาพสวมกางเกงขาสั้น สีขาว เสื้อลายดอกสีดำสลับขาว สวมเสื้อกันหนาวสีแดงเข้มทับไว้ ถูกฆ่าตายในสภาพนอนคว่ำหน้า ซุกศพไว้ที่พื้น โดยเหยื่อสาวรายนี้ถูกคนร้ายรัดคอจนขาดอากาศหายใจ
แต่ที่ชวนขนลุกเห็นจะเป็นการที่คนร้ายใช้แบงก์ 20 จำนวน 2 ใบ อุดปากของผู้ตายเอาไว้ ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายการสะกดวิญญาณตามความเชื่อของพวกฆาตกรทั่วไป นอกจากนี้ ยังพบถุงยางอนามัยใช้แล้วตกอยู่ในห้อง 1 อัน คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงก่อนพบศพ
ตำรวจสอบปากคำพยานทันที
เจ้าหน้าที่ซักถามเด็กโรงแรมได้ความว่า ตอนบ่าย 3 ของวันเกิดเหตุ มีผู้ชาย 2 คน ขับมอเตอร์ไซค์มาเปิดห้องพักห้องที่ 17 หลังจากนั้นไม่นาน เหยื่อสาวก็ขับรถตามมา และหายเข้าไปในห้องกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแฟนกัน โดยมีผู้ชายอีกคนนั่งรออยู่หน้าห้อง จนกระทั่งตอน 6 โมงเย็นชายหนุ่มทั้ง 2 คนจึงพากันขับมอเตอร์ไซค์ออกไป จนกระทั่งหมดเวลาตอนห้าทุ่มพนักงานโรงแรมจึงไปเคาะเรียก ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบกลับ ทั้งๆ ที่รถมอเตอร์ไซค์ยังจอดอยู่
เมื่อเข้าไปดูจึงพบคนถูกฆ่า
และเพื่อให้เห็นภาพเหตุการณ์ ตำรวจจึงเปิดดูกล้องวงจรปิดของทางโรงแรม จึงพบภาพคนร้ายที่ปรากฏใบหน้าชัดเจน ตำรวจจึงไปตามญาติผู้ตายมาดูภาพในกล้องวงจรปิดเพื่อชี้ตัวยืนยัน ทันทีที่ญาติเห็นภาพชายทั้งสองก็เอะอะโวยวายลั่น ยืนยันว่ารู้จักทั้งคู่เป็นอย่างดี คือ นายศุภวัฒน์ โสภา อายุ 25 ปี กับนายเผด็จ ช่างสี อายุ 26 ปี คู่ซี้กัน ซึ่งนายศุภวัฒน์เป็นแฟนหนุ่มที่คบหาอยู่กับผู้ตายมานานถึง 7 ปี แต่มามีปัญหากันในตอนหลัง ทางญาติพยายามให้ฝ่ายหญิงเลิกคบกับนายศุภวัฒน์ เพราะรู้ว่าพฤติกรรมหมอนี่ไม่เรียบร้อย แถมยังขู่ฆ่าญาติพี่น้องของน.ส.จิราภรณ์เป็นประจำที่เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้
ไม่คิดว่านายศุภวัฒน์จะโหดร้ายทำได้
ภาพในกล้องวงจรปิดบันทึกภาพนายศุภวัฒน์กับนายเผด็จเอาไว้ทุกอิริยาบถ ตั้งแต่ตอนเข้ามาขอเปิดห้องพัก โดยที่ผู้ตายขับรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า เวฟ 100 ตามมาสมทบภายหลัง จากนั้นเหยื่อสาวก็หายเข้าห้องไปกับนายศุภวัฒน์ โดยมีนายเผด็จนั่งจิบเบียร์เฝ้าหน้าห้อง ก่อนที่อีกพักใหญ่ๆ นายศุภวัฒน์กับนายเผด็จจะขับรถกลับออกไปอย่างรวดเร็ว พอหมดเวลาพนักงานโรงแรมจึงไปเคาะห้อง แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงนำกุญแจสำรองไปไขดูจึงพบว่าเหยื่อสาวถูกฆ่าตาย
ทั้งหมดเป็นหลักฐานอย่างดี
หลังเกิดเหตุ ผู้กำกับประจวบ ระดมชุดสืบสวนออกไล่ล่าทันที สายวันนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนายเผด็จ เอาไว้ได้ ที่หมอนี่นอนหลับอยู่ในบ้านกลางเมืองศรีสะเกษจึงนำตัวมาสอบสวน ส่วนนายศุภวัฒน์หลบหนีไปได้ เลยรอดอย่างหวุดหวิด
นายเผด็จให้การว่า เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย โดยนายศุภวัฒน์ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้านสักครั้ง ในวันเกิดเหตุนายศุภวัฒน์ได้นัดน.ส.จิราภรณ์ มาตกลงปัญหาเรื่องความรัก จึงชวนตนมาด้วย เพราะนายศุภวัฒน์ เริ่มระแคะระคายว่าฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่างไปคบผู้ชายคนใหม่ เมื่อผู้ตายมาพบที่โรงแรมตามที่นัดไว้ นายศุภวัฒน์จึงเข้าไปตกลงกันสองต่อสอง ส่วนตนนั่งรออยู่หน้าห้อง รอจนกระทั่งหกโมงเย็นนายศุภวัฒน์ จึงเปิดประตูออกมาเรียกให้ตนเข้าไปข้างในก็พบว่า "จิราภรณ์" ถูกฆ่าตายแล้ว
ซึ่งงานนี้นายเผด็จยังให้การแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน.ส.จิราภรณ์ แต่อย่างใด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะอย่างน้อยนายเผด็จ ก็ต้องช่วยนายศุภวัฒน์เคลื่อนย้ายอำพรางศพ เพราะคนๆ เดียวไม่น่าจะทำได้ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นอำพรางศพเอาไว้
คิวต่อไปเป็นคิวนายศุภวัฒน์ที่ต้องรับโทษ!!