สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า
ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ ดัชนีปรับลดลงอย่างหนัก จากแรงเทขายหุ้นของนักลงทุนในทุกกลุ่ม หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 14% จนดัชนีกลับมายืนเหนือ 7,000 จุดได้อีกครั้ง
ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนว่า
ดัชนีจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกต่อไป หากมีข้อมูลและปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ปรับลดลง 55 เซนต์ ไปอยู่ที่ระดับ 51.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้ล่าสุด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 7,278.38 จุด ลดลง 122.42 จุด หรือ 1.65% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 1,457.27 จุด ลดลง 26.21 จุด หรือ 1.77% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 768.54 จุด ลดลง 15.50 จุด หรือ 1.98%
ในส่วนตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 (FTSE 100) ตลาดลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปิดที่ 3,802.77 จุด ลดลง 14.16 จุด หรือ 0.37% ดัชนีแด็กซ์ (DAX) ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ปิดที่ 4,029.74 จุด ลดลง 13.72 จุด หรือ 0.34% ดัชนีซีเอซี 40 (CAC 40) ตลาดปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปิดที่ 2,745.67 จุด ลดลง 31.32 จุด หรือ 1.13% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปิดที่ 51.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปิดที่ 955.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ลดลง 2.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ