ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พบศพนักศึกษาสาวชั้น ปวส. โรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง อายุ 20 ปี เสียชีวิตในห้อง 212 ชั้น 2 ดีดีแมนชั่น ถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก อ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ในสภาพอวัยวะเพศมีเลือดไหลไม่หยุด
ส่วนที่ชักโครกในห้องน้ำพบซากรกและก้อนเลือด นอกจากนี้ ภายในกระเป๋าผู้ตายพบยาชนิดหนึ่งที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดการตกเลือด สันนิษฐานว่านักศึกษาสาวรายนี้น่าจะเสียชีวิตจากการกินยาบีบมดลูก ต่อมา อย.ได้ประสานตำรวจกองปราบปราม สืบสวนหาที่มาของยาชนิดดังกล่าว เนื่องจากเป็นยาอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย เพราะหากรับประทานไปอาจถึงแก่ชีวิต กระทั่งได้เบาะแสมีการลักลอบจำหน่ายยาผ่านเว็บไซต์ www.cytotec99.com เสนอขายยาทำแท้งหลากหลายชนิด อ้างชื่อ นพ.ประดิษฐ์ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ให้คำแนะนำประจำเว็บไซต์พร้อมระบุขนาดและชนิดของยา สนนราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงกว่าพันบาท อธิบายขนาดและวิธีการใช้อย่างละเอียดตามอายุครรภ์ และอ้างว่ายาดังกล่าวไม่มีอันตราย ส่วนวิธีการสั่งซื้อและจัดส่งยานั้น ผู้ที่สนใจจะต้องสั่งซื้อและโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารชื่อบัญชีนายสมชาย สุนันท์เจริญกิจ
พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ บก.ป. พ.ต.ต.ธีรพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. และ ร.ต.อ.สิทธิชัย การินทร์ รอง สว.กก.1 บก.ป. วางแผนล่อซื้อยาทำแท้งจำนวน 1 ชุด ในราคา 3,040 บาท
ก่อนจะพบว่าสินค้าถูกส่งมาให้จากที่ทำการไปรษณีย์ นครปฐม และเมื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารของนายสมชาย ตามข้อมูลในเว็บไซต์พบมีการโอนเงินสั่งซื้อยาวันละหลายหมื่นบาท กำลังชุดสืบสวน บก.ป.ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องแล้วล่อซื้ออีก 4 ชุดเพื่อจับกุมให้ได้ทั้งขบวนการ กระทั่งพบผู้ต้องสงสัยถือถุงซองจดหมายไปยังที่ทำการไปรษณีย์นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวตรวจค้นทราบชื่อ นพ.อังกูร อังกุรวานิช เจ้าของคลินิกสูตินรีเวช ริมถนนพาน อ.เมืองนครปฐม พบในซองมียารีดลูกตามที่ตำรวจวางแผนสั่งซื้อไว้ 4 ชุด จากนั้นนำตัวขยายผลเข้าตรวจค้นโกดังเก็บยา และร้านสถานียา เลขที่ 18/1 ถนนสะพานโยง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จับกุมนายสว่าง บุญเยี่ยม คนเฝ้าโกดัง นายวิสิทธิ์ ศิริมงคลชัยกุล และ น.ส.กัลยาศิริ ศิริมงคลชัยกุล พี่น้องเป็นผู้จำหน่ายยาในร้าน ยึดของกลางยาไวอากร้า ยานอนหลับ และยาต้องห้ามจำหน่ายอีกจำนวนหนึ่ง
สอบสวนเบื้องต้น นพ.อังกูรให้การปฏิเสธอ้างเพียงว่า เพื่อนคนหนึ่งจ้างให้นำซองจดหมายไปส่งที่ไปรษณีย์ได้ค่าจ้างซองละ 100 บาท ส่วนยาทำแท้งที่พบนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ นพ.อังกูรบอกว่า ก่อนหน้าเคยทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ต่อมาลาออกไปเปิดคลินิกเอง เนื่องจากเบื่อระบบราชการ ขณะที่ น.ส.กัลยา เจ้าของร้านยา ซึ่งเป็นญาติของ นพ.อังกูร กับพวก ปฏิเสธเช่นกัน พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับ นพ.อังกูร ข้อหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนที่เหลือถูกดำเนินคดีข้อหา ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ได้ติดตามตรวจสอบการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายยาทำแท้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากต่างประเทศมาตลอด
พบว่ามีการเสนอขายทางเว็บไซต์หลายแห่ง ที่ผ่านมาได้ประสานกับทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ช่วยตรวจสอบและปิดเว็บไซต์เหล่านี้ไปแล้วกว่า 10 แห่ง แต่ก็ยังมีการเปิดขึ้นมาใหม่ ใช้เซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ สำหรับยาที่ได้จากการล่อซื้อครั้งนี้พบเป็นยาชนิดเดียวที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. มีสรรพคุณในการรักษาโรคกระเพาะ และลำไส้ แต่ในผู้หญิงที่รับประทานเข้าไปจะมีผลข้างเคียงกับการบีบตัวของมดลูก และหากนำยาดังกล่าวไปสอดบริเวณช่องคลอดแทนการรับประทานในรายที่ต้องการทำแท้งจะมีผลทำให้มดลูกบีบตัวรุนแรง กระตุ้นให้มีการขับเลือดออกมากเกินเป็นเหตุให้เสียชีวิต เช่นกรณีของนักศึกษาที่ จ.เชียงใหม่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
