จากการสอบสวนข้อเท็จจริงทราบว่า นายโรเบิร์ต เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธินานาเผ่า เป็นมูลนิธิอุปการะรับเลี้ยงเด็กชาวเขาด้อยโอกาสทางการศึกษามานานหลายปี
โดยให้ที่พักและเข้าเรียนในหลายโรงเรียนของ จ.เชียงใหม่ ส่วนนายชัยหลง พ่อบ้านมูลนิธิฯเป็นผู้คัดเลือกเด็กส่วนใหญ่มาจาก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และเป็นผู้รับส่งเด็กไปกลับโรงเรียน มีตั้งแต่ระดับชั้นประถมจนถึงชั้นมัธยมไม่ต่ำกว่า 100 คน พักอาศัยอยู่ แต่แท้จริงแล้วมูลนิธิดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการในลักษณะให้การอุปการะ แต่ดำเนินการลักษณะเป็นธุรกิจหอพักพ่วงรับส่งเด็ก โดยเก็บเงินค่าที่พัก ค่ารถรับส่งเด็กไปโรงเรียนและค่าอาหาร ปีละ 3,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนเด็กเป็นผู้ชำระเอง ส่วนเด็กที่พักอยู่ที่หอพักนานาเผ่าในเขต ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ เสียค่าใช้จ่ายปีละ 10,000 บาท สำหรับเงินบริจาคจำนวนมากนั้น นายโรเบิร์ตจะเก็บไว้เอง และมักจะใช้แรงงานเด็กไปถางหญ้าทำสวนที่บ้านพักสวนผลไม้ โดยมีพื้นที่บางส่วนบุกรุกป่าสงวนด้วย
หน.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภาค 5 เผยต่อไปว่า นายโรเบิร์ต และนายชัยหลง มักจะเรียกเด็กผู้หญิงมาบีบนวดให้ตัวเอง จากนั้นก็ลวนลามทางเพศ จับหน้าอก และให้จับอวัยวะเพศ
เหตุเกิดต่อเนื่องหลายครั้งและหลายคน จนเด็กบางคนไม่กล้ากลับไปมูลนิธิ กระทั่งครูที่โรงเรียนสบเปิงทราบเรื่องจึงเกลี้ยกล่อมให้เด็กพูดความจริงก่อนพาไปแจ้งความตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ จากนั้นครูโรงเรียนสบเปิงทำหนังสือร้องมายังศูนย์ฯอีกครั้ง จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวทั้งคู่ไว้ได้ขณะย้อนกลับมาที่มูลนิธิอีกครั้งในวันนี้ โดยพบว่ายังมีเด็กชาวเขาพักอาศัยอยู่ 53 คน จึงได้นำเด็กทั้งหมดไปฝากไว้ที่บ้านพิงใจ อ.แม่ริม บางส่วน ผู้ปกครองก็มารับตัวกลับบ้าน
จากการตรวจสอบประวัตินายโรเบิร์ต สัญชาติอเมริกัน เกิดในประเทศพม่า เข้ามาอยู่เมืองไทยกว่า 20 ปี สามารถพูดภาษาไทย ภาษาคำเมืองภาคเหนือ และภาษาชาวเขาได้
มีภรรยาเป็นคนฮ่องกง โดยมูลนิธินานาเผ่ามีสาขา 3 แห่ง คือ อ.แม่แตง อ.เมืองเชียงใหม่ และ อ.เชียงดาว ที่ผ่านมาทางมูลนิธิมักไม่ให้ความร่วมมือครูอาจารย์ที่จะเข้าไปเยี่ยมเด็ก สภาพที่พักของเด็กคล้ายชุมชนแออัด ไม่มี ทางหนีไฟ และมีการต่อเติมอาคารทิ้งไว้แบบไม่แล้วเสร็จ ไม่มีความสะอาดเพียงพอ การกระทำของนายโรเบิร์ต เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ กระทำความผิดหลายประการต่อเนื่องกันมานาน มีเด็กหลายคนหลบหนีออกจากมูลนิธิไปกลายเป็นเด็กเร่ร่อนและไม่มีการติดตามหาเด็ก มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีได้ ซึ่งทางศูนย์ฯจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ป่าสงวน แห่งชาติฯ พ.ร.บ.ต่อเติมอาคารฯ และอื่นๆ อันเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพเด็ก ในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ด้านนายชัยหลง ศิริวงศ์ พ่อบ้านมูลนิธิฯที่ถูกจับกุมอ้างว่า เด็กที่กล่าวหาตนทั้ง 7 คน เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ บ้านเดียวกับตนที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
รู้จักกับผู้ปกครองของเด็กเหมือนเป็นญาติกัน ยืนยันว่ารักเด็กๆทุกคนเหมือนลูก แต่มีบ้างที่ลืมตัวไปตบก้นเด็ก ไม่มีเจตนาที่จะกระทำอนาจารแต่อย่างใด ส่วนที่กล่าวหาว่าไปจับหน้าอกเด็ก ก็เพียงแค่สวมกอดเหมือนลูกแต่มือไปถูกหน้าอกเอง ไม่ได้ตั้งใจอีกเช่นกัน เช่นเดียวกับนายโรเบิร์ตที่ปฏิเสธว่า ทุกอย่างทำไปเพราะรักเด็กเหมือนพ่อกับลูก ไม่มีเจตนากระทำอนาจารแต่อย่างใด