คมชัดลึก :รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกต้นกระดาษ หลุดจากหัวลากพุ่งชนร้านหมี่เกี้ยวริมข้างทางเฉี่ยวร่างลูกสาวเจ้าของร้านรอดหวุดหวิด ญาติเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ขณะที่ชาวบ้านแฉเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง ตร.ทำได้แค่ข้อหาขับรถประมาท
(13มี.ค.) เวลา 01.00 น. ร.ต.อ.สุรพงษ์ รอยเวียงคำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ แบบสองหางพ่วง บรรทุกท่อนไม้ยูคาลิปตัส มาเต็มคันรถ
ส่วนห่างพ่วงได้หลุดออกมาจากส่วนหัวลาก พุ่งออกนอกเส้นทางเข้าใส่ร้านค้ารถเข็นขายบ๊ะหมี่เกี้ยว (ชายสี่ หมี่เกี้ยว) ข้างทางได้รับความเสียหาย และยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในกองไม้ ใต้ท้องรถ 1 ราย ที่บริเวณหน้าปากทางเข้าวัดชมโพธยาราม ริมถนนสาย ฉะเชิงเทรา - บางปะกง ฝั่งขาเข้า เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบเพียงส่วนหางพ่วงของรถ 18 ล้อ สีขาว ทะเบียน 70-1220 ฉะเชิงเทรา นอนล้มตะแคงข้างตกอยู่ริมข้างทาง สภาพเพลาล้อหลุดออกจากตัวถัง
มีท่อนไม้ยูคาฯ ขนาดความยาวประมาณ 4 เมตร ตกกระจายอยู่เกลื่อนพื้น ภายในกองไม้ยูคาฯใต้ท้องรถพบร่างของ น.ส.วรรณพร พวงเจริญ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.1 ต.โสธร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ติดอยู่ภายในกองไม้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัย และหน่วยกู้ชีพ รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ใช้เวลากว่า 30 นาที ช่วยกันขนท่อนไม้ที่ถมทับร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ และช่วยเหลือออกมาได้ กลับพบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพียงบาดแผลถลอกตามร่างกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีอาการเคล็ดขัดยอกที่ท่อนแขนด้านซ้าย โดยที่ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ จากเหตุที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งได้สร้างความงุนงงต่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิต เพราะขณะที่เข้าช่วยเหลือไม่ได้ส่งเสียงร้องใดๆ ออกมาให้ได้ยิน และเห็นแต่เพียงท่อนขาโผล่ออกมาจากกองไม้เท่านั้น
ขณะเดียวกัน นางภิรมณ์ พวงเจริญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นมารดา และได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำที่ศีรษะ เล่าว่า บุตรสาวของตนทำงานอยู่ที่ บริษัทกรุงไทยชาร์ป ย่านอโศก ใน กทม.
โดยเดินทางไปทำงานเช้าเย็นกลับโดยรถไฟ ขณะเกิดเหตุบุตรสาวได้เข้ามาหา หลังจากเสร็จธุระ กลับมาจากทำงาน ส่วนตนพร้อมด้วยสามีกำลังจะเก็บร้านค้า หลังจากเที่ยงคืนแล้วไม่มีลูกค้า ได้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันดังกล่าวขึ้น ขณะกำลังยืนหันหลังคุยอยู่กับลูกสาว "โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีลูกค้าแล้ว และบุตรสาวไม่ได้รับอันตราย หรือเป็นอะไรไป เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะปาฏิหาริย์ ขององค์หลวงพ่อโสธร ที่ลูกสาวนแขวนคออยู่ในขณะที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นพระกิ่งสามกษัตริย์ (ไม่ทราบรุ่น พร้อมชูอวดให้ผู้สื่อข่าวดู) แต่ก็มีสัตว์เลี้ยงมารับเคราะห์แทน โดยมีสุนัขจรจัด (อีแดง) ที่ลูกสาวชอบช่วยเหลือเลี้ยงไว้ ถูกรถคันก่อเหตุทับจนตายสนิท "นางภิรมณ์ กล่าว
ด้าน น.ส.วรรณพร กล่าวว่า ตอนที่รถพ่วง พุ่งเข้ามานั้น ตนไม่เห็นเพราะยืนหันหลังอยู่ แต่รู้สึกตัวตลอดขณะที่เกิดเหตุแล้ว
ตอนที่อยู่ใต้กองไม้ รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก จึงไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมา ในพรุ่งนี้ยังอยากจะเดินทางไปทำงานอีก เพราะต้องจ่ายเช็คให้ลูกค้าที่บริษัท น.ส.วรรณพร กล่าว ส่วน นางเกสร ตรัยขันท์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/12 ม.1 ต.โสธร แม่ค้าขายก๋วยจั๊บ ซึ่งอยู่ใกล้กัน เล่าถึงประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยมีรถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดใหญ่บรรทุกตู้ใส่เยื่อกระดาษ คนขับหลับในพุ่งชนเข้ามายังร้านของตน เช่นเดียวกัน โดยมีรถเก๋งของตนที่จอดอยู่ด้านหน้าร้านพังเสียหายยับเยิน โดยที่ไม่มีใครเป็นอะไร
ด้าน นายธีรยุทธ เหมือนจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253/663 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ซึ่งเป็นคนขับรถคันก่อเหตุ กล่าวว่า
ตนเป็นพนักงานขับรถของ บริษัทบางปะกงขนส่ง จำกัด เครือบริษัทดับเบิ้ลเอ ในกลุ่มของบริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชผลจำกัด ได้ขับรถไปรับต้นไม้ยูคาฯ จากสวนป่าในเขต อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งหน้านำไปส่งยังโรงงานไม้อัดย่านพุทธมณฑล สาย 4 แต่เมื่อมาถึงยังจุดเกิด ได้รู้สึกว่าเหมือนมีลมพัดวูบสะบัดที่ตัวรถ และหางพ่วงเบาลง จึงได้หันมาดูจนพบว่าหางพ่วงหลุดออกมาจากตัวรถขณะกำลังวิ่งไปตามเส้นทาง จึงได้รีบกลับรถมาดู ซึ่งครั้งแรกก็ตกใจเพราะคาดว่าจะมีคนเสียชีวิต แต่เมื่อกลับมายังที่เกิดเหตุและพบว่าไม่มีใครเป็นอะไร จึงรู้สึกโล่งใจ
ร.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีต่อคนขับรถนั้น สามารถดำเนินคดีได้เพียงในข้อหาขับรถโดยประมาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายนั้นจะได้นัดให้ผู้เสียหาย และเจ้าของรถ มาตกลงกันในวันรุ่งขึ้น ร.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าว