เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เอพีและเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุคลั่งยิงสุดสยองวันเดียวกัน 2 ประเทศซ้อน ในสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี กว่าคนร้ายทั้งสองเหตุการณ์จะจบชีวิต ได้สังหารเหยื่อจำนวนมาก โดยที่สหรัฐตายรวม 10 ศพ และที่เยอรมนี 17 ศพ
เหตุการณ์แรกเกิดที่รัฐอลาบามา ทางใต้ของสหรัฐ นายไมเคิล แม็กเลนดอน อายุ 27 ปี อดีตพนักงานโรงงานเหล็กรีไลเอเบิลเมทัล ใช้อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติไล่ยิงญาติและชาวบ้านเสียชีวิต 9 ศพ ก่อนยิงตัวตาย ระหว่างดวลปืนกับตำรวจสนั่นหวั่นไหวกว่า 30 นัด
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีกล่าวว่า มือปืนคลั่งเริ่มต้นก่อเหตุสังหารมารดาเสียชีวิตคาบ้านพักในเมืองคิงสตันและจุดไฟเผาบ้าน
ต่อมาขับรถมายังบ้านญาติในเมืองแซมซัน เขตเจนีวา ใช้ปืนยิงตา ยาย ลุง และป้าเสียชีวิตยกครัว แต่ยังไม่หนำใจพอบุกเข้าไปในบ้านในย่านเดียวกันอีก 2 หลัง ยิงคนตายหลังละศพ ก่อนตระเวนขับรถไล่ยิงคนตามร้านค้า ปั๊มน้ำมัน และท้องถนนตายไป 5 ศพ ในจำนวนนี้เป็นภรรยาและลูกของผู้ช่วยนายอำเภอ
ช็อกคลั่งยิงสยอง2ปท.สหรัฐ-เยอรมัน
หลังเกิดเหตุตำรวจหน่วยสอบสวนกลางเอฟบีไอต้องส่งกองกำลังไปช่วยตำรวจในพื้นที่ไล่จับนายแม็กเลนดอน
ซึ่งยิงดวลปืนกับตำรวจอย่างบ้าคลั่ง มีตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาถูกยิงแต่ใส่เสื้อกันกระสุนจึงบาดเจ็บเล็กน้อย การไล่ล่าจบลงตรงโรงงานที่คนร้ายทำงานด้วย โดยหลบหนีออกจากรถเข้าไปกบดานแล้วยิงตัวตายอยู่ข้างใน
"ผมอยู่เมืองนี้มา 44 ปีไม่เคยคิดมาก่อนว่าโศกนาฏกรรมร้ายแรงขนาดนี้จะมาเกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ของเรา" นายเคลย์ คิง นายกเทศมนตรีเมืองแซมซัน กล่าว ขณะที่ทางการสั่งเปิดศูนย์รับมือวิกฤตคลั่งยิงเพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาชาวบ้านที่ยังตื่นกลัวสุดขีด
ส่วนที่เยอรมนี หนุ่มวัย 17 ปี สวมไอ้โม่งใช้ปืนกลบุกเข้าไปกราดยิงในโรงเรียนเก่าของตนเองในเมืองวินเนินเดิน ใกล้เมืองสตุ๊ตการ์ต แล้วหลบหนีไป
เหยื่อเสียชีวิต 16 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ทางการส่งหน่วยคอมมานโด เฮลิคอปเตอร์ ออกไล่ล่าขนานใหญ่ และวิสามัญมือปืนที่ลานจอดรถใกล้ซูเปอร์ มาร์เก็ต คดีนี้นับเป็นคดีฆาตกรรมในสถานศึกษาระดับร้ายแรงครั้งที่ 3 ในรอบ 7 ปีของเยอรมนี โดยคดีล่าสุดเมื่อปี 2549 มีนักเรียนถูกเพื่อนร่วมสถาบันยิงบาดเจ็บ 6 ราย นางแองเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ช็อกคนทั้งประเทศ