รวบยกแก๊งองค์บาก ตระเวนอาละวาดทั่วภาคใต้

ต้องขอปรบมือให้ตำรวจนครศรีธรรมราช ที่สามารถตะครุบตัวคนร้ายตระเวนลักพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเอาไว้ได้

ที่สำคัญคือทำให้ได้ของกลางเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการบูชาคืนมามากมาย

โจรกรรมไม่กลัวนรกกินกบาล!??

แก๊ง "องค์บาก" แก๊งนี้ออกตระเวนลักพระพุทธรูปสำคัญในหลายจังหวัดทั่วภาคใต้ รวมถึงพระลากชื่อดังแห่งอ.ลานสกา ที่เพิ่งถูกขโมยไปเมื่อไม่นานมานี้

หัวหน้าแก๊งของพวกมันมีดีกรีเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน มีเครือข่ายการทำงานโยงใยไปทั่วประเทศ ตระเวนลักพระและวัตถุโบราณมาแล้วมากมาย

ได้ตัวพวกมันก็เหมือนเป็นการปิดฉากแก๊งลักพระรายใหญ่ที่ทำชั่วมาช้านาน!??




เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 16 ก.ค. มีเรื่องไม่ชอบมาพากลที่อุโบสถวัดขรัวช่วย ม.15 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อคนร้าย 2 คน กำลังพยายามลักพระพุทธรูปศรีวิชัยปางประทานพร เนื้อตะกั่ว หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว สูง 15 นิ้ว ขึ้นรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 3613 สุราษฎร์ธานี ขับหลบหนีออกจากวัดมุ่งหน้าไปตามถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี

จังหวะเดียวกันนั้นพระครูวิธาน สังฆกิจ เจ้าอาวาส ทราบเรื่องจึงแจ้งเหตุไปยังร.ต.อ.ปรีชา ทรัพย์มี หน.ชุดสืบสวน สภ.อ.สิชล และด.ต.วินัย ผิวเหมาะ ให้ช่วยไล่ตามคนร้าย และประสานไปยังร.ต.อ.ไพบูลย์ ศรีวิชัย รอง สวป.สภ.อ.ท่าศาลา ตั้งด่านสกัดจับกุมที่บริเวณสามแยกลิโพ ม.15 ต.ท่าศาลา กระทั่งสามารถหยุดรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้


จนมุมอยู่ตรงนั้น


จากการตรวจค้นในรถพบพระพุทธรูปศรีวิชัยปางประทานพรที่ขโมยมา และยังพบอาวุธปืน .38 อีก 1 กระบอก ท้ายรถ

พบอุปกรณ์งัดแงะมากมายจึงยึดไว้เป็นของกลาง ควบคุมตัวนายวรวุฒิ สดรุ่ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 283 หมู่ 11 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และนายสนั่น รู้แจ้ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/3 หมู่ 3 ต.ท่าอุแท ที่นั่งมาไว้สอบปากคำ

พวกมันคาดไม่ถึงว่าจะจนมุมตำรวจรวดเร็วแบบนี้!??




เจ้าหน้าที่นำ 2 ตัวแสบมาสอบสวนขยายผล ทราบว่าแก๊งนี้มีนายวรวุฒิเป็นหัวหน้าแก๊ง

ก่อนหน้านี้ร่วมกับพวกอีก 4 คน ประกอบด้วย นายปราโมทย์ บุญพลับ อายุ 32 ปี, นายธเนศ อินทระ อายุ 23 ปี, นายสนธยา วิชัยดิษฐ์ อายุ 30 ปี และนายพันธวัฒ ชนะภักดี อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจ.สุราษฎร์ธานี ออกตระเวนลักพระพุทธรูปมีค่าตามวัดทั่วภาคใต้เกือบ 40 วัดด้วยกัน ได้ทรัพย์สินเป็นพระพุทธรูปและวัตถุโบราณมากมาย

ล่าสุดพาพวกบุกปล้นพระลากวัดพัทธเสมา ม.5 ต.ท่าดี อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อกลางดึกวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา พอได้พระไปก็จะนำไปขายให้นายทุนที่กรุงเทพฯ ในราคาเริ่มต้นที่หลักแสนตามความสำคัญของพระแต่ละองค์ และบางทีก็มีใบสั่งจากนายทุนเหล่านี้ว่าต้องการจะได้พระอะไร วัดไหน จากนั้นพวกมันก็จะใช้วิธีบุกเข้าไปขโมยหรือไม่ก็ปล้นเอาไปดื้อๆ เสียอย่างนั้น



หลังได้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมนายปราโมทย์กับนายธเนศไว้ได้เป็นรายต่อมา

ส่วนนายสนธยากับนายพันธวัฒหลบหนีไปได้ แต่คาดว่าไปไหนได้ไม่ไกลเพราะตำรวจตามประกบไว้หมดแล้ว

เจ้าหน้าที่ขออนุมัติออกหมายจับ

เจอตัวที่ไหนลากคอเข้าตะรางได้ที่นั่น!?!




ตำรวจขยายผลทราบว่าโจรแก๊งนี้ออกอาละวาดไปทั่ว ก่อนหน้านี้บุกโจรกรรมพระที่วัดพัทธเสมา ม.5 ต.ท่าดี อ.ลานสกา ได้พระลากปางยืนอุ้มบาตร 1 องค์ (ทองสัมฤทธิ์) และพระพุทธรูป 3 องค์, วัดกะเปียด ต.กะเปียด อ.ฉวาง ได้พระพุทธรูปประทับยืน ปางอุ้มบาตรแกะด้วยไม้อายุ 100 ปี 1 องค์ พระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาตอนปลายหน้าตัก 9 นิ้ว 2 องค์ พระประธานปางสมาธิสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์หน้าตักกว้าง 15 นิ้วอีก 1 องค์, วัดท่าลิพง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้พระลากพระพุทธรูปยืนทรงปางห้ามสมุทรเป็นพระหล่อเนื้อทองเหลืองสูง 70 ซ.ม. 1 องค์


ทั้งหมดล้วนเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองทั้งนั้น



นอกจากนี้ ยังมีที่วัดคีรีอัฒจันทร์ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้พระพุทธรูปปางห้ามญาติ (พระลาก) และของกลางอีกหลายรายการ, วัดท่าจันทร์ อ.ขนอม ได้พระไม้ยืนปางอุ้มบาตร อายุประมาณ 600 ปี, วัดกระดังงา อ.ขนอม ได้พระไป 13 องค์, วัดคันธมาลี อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้พระลากปางยืนอุ้มบาตร 1 องค์, วัดเนกขัมมาราม อ.ร่อนพิบูลย์ ได้พระยืนปางอุ้มบาตร 3 องค์, วัดประดู่เรียง จ.พัทลุง ได้พระพุทธรูปปางห้ามมาร, วัดท่าสำเภาเหนือ จ.พัทลุง ได้พระ 3 องค์ และที่วัดพระใหญ่ อ.เกาะสมุย ได้งาช้าง 1 คู่ รวมวัดที่พวกมันลงมือมีทั้งหมดมากว่า 40 วัด

พระบางองค์ยังจำไม่ได้ว่าขโมยมาจากวัดไหน!??



วันรุ่งขึ้นพล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.จว.นครศรีธรรมราช นำตัวคนร้ายออกแถลงข่าว ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านที่แห่กันมาดูหน้าโจรใจบาปกันมากมาย บางคนถึงขนาดเหมารถมาจากจังหวัดที่อยู่ห่างไกลเพื่อขอดูหน้าพวกมัน


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวบ้านอ.ลานสกา พอทราบข่าวว่ามีการจับกุมคนร้ายที่ขโมยพระลากไว้ได้

จึงพากันเดินทางมาอัญเชิญพระลากกลับไปไว้ที่วัดพัทธเสมาตามเดิม ท่ามกลางรอยยิ้มและคราบน้ำตาแสดงความดีใจที่ได้พระลากกลับคืนมา

ทุกคนสาปแช่งขอให้พวกมันตกนรกหมกไหม้!??

ปัญหาแก๊งลักพระมิได้มีแค่ที่ภาคใต้ แต่มีอยู่ทุกภาคทั่วประเทศไทย อย่างเช่นพื้นที่ทางภาคเหนือก็มีเหตุคนร้ายออกอาละวาดลักพระพุทธรูปเช่นกัน จนบางวัดต้องเอาพระพุทธรูปขึ้นไปแขวนไว้บนเพดานให้พ้นมือพวกมัน จนเจ้าหน้าที่ต้องขอความร่วมมือกับทางวัดให้ช่วยดูแลโบราณสถานโบราณวัตถุให้ดี และให้ถ่ายภาพจัดทำประวัติพระพุทธรูป รวมทั้งสิ่งของสำคัญไว้ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบหากถูกโจรกรรมหรือเกิดการสูญหาย

ต้องช่วยกันรักษามรดกล้ำค่าเอาไว้


แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์