โผล่อีกรายเหยื่อสีกากีถุงคลุมหัวซ้อมโหดนักเรียน ม.6

ให้ยอมรับคดีชิงสร้อยแถมยัดเยียดว่าฉี่ม่วง!

โผล่อีกราย เหยื่ออาญาเถื่อนสีกากี แจ้งจับ"สืบจังหวัดปราจีนฯ"ถุงดำคลุมหัวทรมานให้รับข้อหา

พ่อจูงลูกชายวัย 18 ปี นร.ม.6 รร.ดังเมืองปราจีนฯ เข้าร้องทุกข์เดลินิวส์ โวยสายสืบทรมาน เพื่อให้รับสารภาพเป็นคนร้ายคดีกระชากสร้อยทอง แถมยัดเยียดว่าฉี่ม่วง พิลึกตรวจอีกรอบกลับไม่พบ ต่อมาตามล็อกคนร้ายตัวจริงได้ จึงพาลูกชายมาร้องเรียน เพราะถูกซ้อมโหดแถมคดีติดตัว “ผู้การจังหวัด” พร้อมให้ความเป็นธรรม

เหยื่อสีกากีเถื่อนโผล่ นร.ม.6 ถูกถุงดำคลุมหัวซ้อมโหด บังคับสารภาพวิ่งราวทรัพย์ครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มี.ค.

นายสมศักดิ์ ชื่นจิตร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลข ที่ 160/2 หมู่ 4 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปรา จีนบุรี พานายเอ (นามสมมุติ) บุตรชายวัย 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ภายหลังจากบุตรชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน บก.ภ. จว.ปราจีนบุรี รุมซ้อมอย่างป่าเถื่อน จนเป็นบาดแผลบวมช้ำตามร่างกายหลายแห่ง เพื่อให้รับสารภาพในคดีวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำบริเวณถนนลอดใต้สะพานแม่น้ำปราจีนบุรี ฝั่งไป อ.บ้านสร้าง บุตรชายจึงต้องจำยอมเพราะทนการทรมานไม่ไหว ต่อมาตำรวจจับคนร้ายตัวจริงได้ แต่บุตรชายยังมีคดีติดตัวจึงขอพึ่งเดลินิวส์เป็นสื่อกลางช่วยเหลือ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2552 นายเอ บุตรชายของตนได้ไปดูภาพยนตร์ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขา อ.เมืองปราจีนบุรี

ระหว่างขี่ จยย.ซ้อนท้ายเพื่อน กลับบ้าน ได้ถูกตำรวจชุดดังกล่าวจับกุมตัวนำไปสอบสวนที่ห้องสืบสวน บก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ระบุ ว่า บุตรชายของตนได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยบุตรชายยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาและพยายามขอติดต่อญาติ จึงถูกตำรวจชุดจับกุมรุมซ้อมอย่างป่าเถื่อน ด้วยการใส่กุญแจมือไพล่หลังและใช้ถุงดำครอบหัว มัดปากถุงเพื่อให้หายใจไม่ออก จากนั้นได้เตะ ต่อย ทรมานข่มขู่สารพัดเพื่อให้รับสารภาพ นอกจากนี้ยังบังคับให้บุตรชายตรวจปัสสาวะและบอกว่าเป็นฉี่ม่วง จนบุตรชายต้องยอมเลยตามเลย บอกไปว่านำทองคำไปฝากไว้บ้านรุ่นพี่ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ตำรวจชุดดังกล่าวจึงพาไปที่ร้านค้าเพื่อจะไปเอาทองคำ เมื่อบุตรชายเห็นคนรู้จักจึงอาศัยจังหวะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้ชาวบ้านได้พากันมาที่โรงพักเพื่อสอบถามความจริง บุตรชายจึงได้รับการปล่อยตัวออกมา โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา

หัวอกพ่อรายนี้เล่าต่อไปว่า หลังบุตรชายได้รับการปล่อยตัว ตนร้องขอให้ตำรวจนำบุตรชายไปตรวจปัสสาวะอีกครั้งที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพราะไม่เชื่อผลการตรวจ

ปรากฏว่าปัสสาวะไม่เป็นสีม่วงตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง ต่อมาในวันที่ 29 ม.ค. ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บ้านสร้าง และ พงส.ได้ทำใบส่งตัวบุตรชายไปตรวจร่างกายที่ รพ.บ้านสร้าง เพื่อเป็นหลักฐาน ผลชันสูตรระบุว่าบุตรชายมีรอยกดเจ็บที่ข้อมือ คอด้านหลัง ท้องด้านซ้ายบน กระทั่งวันที่ 30 ม.ค. เจ้าทุกข์ได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับบุตรชาย ตนจึงพาบุตรชายไปมอบตัวเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหา และแจ้งความกลับชุดจับกุมที่ซ้อมเพื่อให้รับสารภาพ แต่ติดขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ผ่านไปถึงวันที่ 6 ก.พ. พงส.ถึงรับแจ้งความ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้บุตรชายเครียดเป็นอย่างยิ่ง จากที่เคยเป็นเด็กร่าเริงกลับซึมเศร้าเก็บเนื้อเก็บตัว กระทั่งวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายสุวิทย์ เหลืองห่อ คนร้ายตัวจริงได้ ตนจึงอยากร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้บุตรชาย เพราะยังมีคดีที่ถูกแจ้งความจับ นอกจากนี้ ยังตกเป็นเหยื่อซ้อมโหดเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นคนร้ายอีกด้วย

ด้าน พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร ผบก.ภ. จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น จึงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนเสียก่อน และพร้อมให้ความเป็นธรรม กับ ทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่ พ.ต.อ.นพดล สุทธิเสริม ผกก. สภ.เมืองปราจีนบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้ทางฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เป็นผู้จับกุมนายเอ (นามสมมุติ) เนื่องจากมีผู้เสียหายยืนยันว่า นายเอเป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จริง ต่อมาฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้จับกุมนายสุวิทย์ เหลืองห่อ พร้อมพวกรวม 4 คน ได้ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยนายสุวิทย์รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ปราจีนบุรีหลายครั้ง หลายจุด รวมทั้งจุดที่ผู้เสียหายอ้างว่านายเอ ลงมือก่อเหตุด้วย ตำรวจจึงต้องเรียกผู้เสียหายดังกล่าวมาชี้ตัวยืนยันว่าผู้ก่อเหตุตัวจริงคือนายสุวิทย์หรือไม่ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ น่าจะทราบผล

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์