จากเหตุการณ์ตำรวจจับแก๊งค้ายามั่วกรณี น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ของบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด และ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ผู้จัดการบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์
ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คน บุกจู่โจม ล้อมรถฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฌฌ 9059 กรุงเทพมหานคร แล้วทุบกระจกรถ ชักปืนขู่ ใช้มือตบหน้า ผู้เสียหาย ขณะจอดรอเพื่อนชายที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา ถนนบางนา-ตราด เขตบางนา กทม. เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมาทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี เข้าใจผิดคิดว่าเป็นแก๊งค้ายาไอซ์ที่ได้รับแจ้งจากสายลับ โดย พ.ต.ท.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก. กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี ยอมรับว่าเป็นเหตุผิดพลาด พร้อมกับขอโทษและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มี.ค. น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ และ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้เข้าพบ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผกก.สน.บางนา
เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น น.ส.ณัฐชานันท์ ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมหลังจากที่ลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วตั้งแต่เมื่อคืนเกิดเหตุ ซึ่งตนกับเพื่อน ขอยืนยันว่า คืนนั้นขับรถไปจอดเพื่อรอเพื่อนชายที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิจริงๆ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวมาล้อมรถ ชักปืนขู่ ถีบประตูและทุบกระจกรถจนแตก จากนั้นยังตบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ ตนกับเพื่อนไปรับผล ตรวจร่องรอยบาดแผลที่ รพ.ไทยนครินทร์มาแล้ว แพทย์ ระบุว่าถูกตบหน้า ทำให้เนื้อเยื่ออักเสบได้รับบาดเจ็บ โดยตนถูกตบหน้าอย่างแรงจนเกิดอาการบวม ส่วน น.ส.พิชญดา ถูกตบแบบเฉียดๆ ภายหลังเกิดเหตุนายตำรวจ หัวหน้าชุดได้นำลูกน้องมาขอโทษ แต่ไม่ใช่คนที่ลงมือตบ หน้าตนกับเพื่อน เพราะตนยืนยันว่าจำลักษณะใบหน้า การ แต่งกายของผู้ที่ลงมือได้อย่างแม่นยำ และได้แจ้งความดำเนิน คดีไปตามกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายตำรวจจริงใจ ตนก็พร้อมที่จะเจรจาด้วย แต่คงจะต้องปรึกษากับญาติๆ ผู้ใหญ่ก่อน
พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผกก. สน.บางนา เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งความ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สายชล หงษ์สุวรรณ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เรียกตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ก่อนจะออกไปทำแผน ที่จุดเกิดเหตุและออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงมารับทราบข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และทำให้ผู้เสียหายตกใจต่อไป ทั้งนี้ ภายหลัง เกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบและกล่าวขอโทษผู้เสียหายแล้ว เนื่องจากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดจริงๆ แต่เท่าที่พูดคุยกับผู้เสียหายและมารดาก็ทราบว่าเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม อยากให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวออกมารับผิดชอบ ขณะนี้ฝ่ายผู้เสียหายเริ่มเข้าใจแล้วว่าเป็นความผิดพลาดจริงๆ แต่ยังยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยขอปรึกษากับญาติผู้ใหญ่ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พนักงาน สอบสวนก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเข้าใจดีว่าตอนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวกระทำเกินไปจริงๆ ผู้ชายนับ 10 คน กระทำอย่างนั้นกับผู้หญิง แค่ 2 คน โดยเฉพาะเรื่องถูกตบหน้า ผู้เสียหายซีเรียสมาก