ตร.รับผิดคิวจับยา ทุบรถเซลส์สาว

ความคืบหน้ากรณี น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ผู้แทนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัทดีทแฮล์ม

เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางนา ระบุว่าถูกชุดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี ประมาณ 10 นาย
กระทำเกินกว่าเหตุ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำร้ายร่างกายและทุบรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฌฌ 9059 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหาย ขณะจอดรถรอเพื่อนอยู่หน้าห้างเซ็นทรัล บางนา โดยอ้างว่าเป็นการตรวจค้นหายาเสพติด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
 

ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 1 มี.ค. พ.ต.ท.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรีชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากผู้ค้ายานำยาไอซ์ 1 กก. มาส่งหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา

และสายลับให้เบาะแสว่า รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน จอดอยู่ใกล้กล่องใส่ยาไอซ์ที่วางอยู่ข้างตู้โทรศัพท์ และขณะที่เข้าตรวจค้นผู้เสียหายอยู่ในรถไม่ยอมเปิดประตู ตำรวจจึงเข้าใจว่า เป็นผู้ต้องหาที่นำยาไอซ์มาส่ง จึงเกิดเหตุรุนแรงทุบรถเพื่อต้องการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่มาส่งยาไอซ์ และช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่พนักงานห้างฯเลิกงานและมีผู้คนพลุกพล่าน มีรถสัญจรไปมาจำนวนมาก ผู้เสียหายไม่น่าจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการปล้น ถ้าผู้เสียหายให้ความร่วมมือเปิดประตูรถให้ตรวจค้นธรรมดา ก็ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ รุนแรงขึ้น


พ.ต.ท.สุขทัศน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีเหตุเข้าใจผิดเกิดขึ้นเช่นนี้แล้วก็ยินยอมขอโทษและชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย เพราะไม่ได้มีเจตนาหรือตั้งใจจะกระทำการดังกล่าว แต่ที่ทำไปเพราะเข้าใจว่า ผู้เสียหายเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด


สำหรับเหตุการณ์ตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุ เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 28 ก.พ. พ.ต.ท.สายชล หงษ์สุวรรณ พงส. (สบ 3) สน.บางนา

รับแจ้งเหตุหญิงถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็นตำรวจทำร้ายร่างกายและทุบรถได้รับความเสียหาย บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล บางนา ถนนบางนาตราด แขวงและเขตบางนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ณัฐชานันท์ สุขสันต์สมเจริญ อายุ 30 ปี ผู้แทนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด ยืนอยู่กับ น.ส.พิชญดา ธำรงค์พรสวัสดิ์ อายุ 29 ปี เพื่อนสาว ผจก.แผนกอีควิปเมนต์คอนโทรล ในเครือบริษัทซีพี จำกัด ใกล้กันพบรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฌฌ 9059 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.ณัฐชานันท์ ประตูด้านคนขับมีรอยถูกทุบบุบ ประตูหลังด้านซ้ายถูกทุบบุบกระจกแตก

น.ส.ณัฐชานันท์ หรืออ้อ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มากับ น.ส.พิชญดา มาจอดรอเพื่อนชายที่เพิ่งลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

โดยนัดเจอกันที่หน้าห้างเซ็นทรัล บางนา ช่วงที่นั่งเปิดแอร์และกะพริบไฟท้ายรออยู่ในรถ มีรถมิตซูบิชิ แลนด์เซอร์ แต่งซิ่งสีขาว ขับมาจอดขวางที่ด้านหน้า ขณะเดียวกันก็มีรถกระบะแบบมีแค็บ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ขับเข้ามาจอดปิดท้าย จากนั้นมีชายฉกรรจ์ เกือบ 10 คน กรูกันเข้ามาที่รถตน ในจำนวนนั้น 3-4 คน ถือปืนลงมาด้วย แล้วจะเคาะกระจกให้เปิดประตู บอกว่าเป็นตำรวจ ด้วยความตกใจกลัวจึงนั่งนิ่งไม่กล้าลงจากรถ พวกที่มีปืนจึงเล็งปืนมาที่ตน ส่วนที่เหลือก็ทั้งทุบทั้งถีบประตูรถ ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างที่เห็น ระหว่างนั้น น.ส.พิชญดา โทรศัพท์แจ้ง 191 พอพวกนั้นเปิดประตูเข้ามาได้ มีคนหนึ่งรูปร่างอ้วน ผิวคล้ำตัดผมสั้น ตรงเข้ามาตบหน้าตนอย่างแรงจนหน้าชา ส่วน น.ส.พิชญดา ก็ถูกจับบีบคอไว้


น.ส.ณัฐชานันท์กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ ดังกล่าวก็ตะคอกใส่ว่าเอาของมา น.ส.พิชญดาจึงยื่นกระเป๋าเงินให้ เพราะเข้าใจว่าถูกปล้น

ระหว่างนั้นยังถามตนว่าทำงานอะไร ก็บอกไปว่าขายยา เพราะเป็นเซลส์ขายยาเคาท์เตอร์เพน ของบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด แล้วก็ยังพยายามเค้นถามว่าซ่อนยาบ้าไว้ที่ไหน พร้อมกับรื้อค้นในรถทุกซอกทุกมุม จนข้าวของกระจัดกระจาย แต่ไม่เจอของผิดกฎหมาย หลังจากนั้นไม่นาน มีเสียงคนตะโกนว่าตำรวจมา ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดกลับไปขึ้นรถที่จอดประกบรถตนอยู่ขับออกไป แต่ยังมีชายคนหนึ่งในกลุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคอยคุมตนกับเพื่อนไว้ ต่อมาตำรวจ สน.บางนา มาถึงที่เกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวก็แยกไปคุยกับร้อยเวร แล้วหายตัวไป


น.ส.ณัฐชานันท์กล่าวด้วยว่า ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความใดๆทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

ตำรวจพวกนี้ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ แต่งกายนอกเครื่องแบบ บัตรประจำตัวก็ไม่ติด ตนกับเพื่อนโดนแบบนี้เสียความรู้สึกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวมันผิดชัดเจน ทั้งหมดจะต้องมีคนรับผิดชอบ
ด้าน พ.ต.ท.สายชลกล่าวว่า เบื้องต้นจะสอบ ปากคำผู้เสียหายและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 2 มี.ค. ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใคร เพราะต้องสอบปากคำและหาพยานหลักฐานให้ชัดเจนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี อ้างว่าพฤติการณ์ที่ผู้เสียหายนำรถไปจอดและเปิดไฟกะพริบตรงกับที่สายลับรายงาน จึงเข้าตรวจค้น อย่างไรก็ตาม จะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวมาสอบปากคำต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์