สาวลูกครึ่งติดกาว ถูกข่มขืนตั้งท้อง

อนาถสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นแท้งลูกทิ้งใต้ต้นมะขาม ก่อนซมซานไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน สาวใหญ่ส่งน้ำแข็งผู้พบเด็กเผยแรกเจอเด็กยังมีลมหายใจรวยรินพยายามเรียกให้คนช่วยแต่ไม่ทัน ระบุชีวิตสาวลูกครึ่งสุดรันทดอยู่กับพ่อเลี้ยงติดสารระเหยถูกข่มขืนจนตั้งท้องไม่มีใครเหลียวแล


เหตุการณ์สาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นชีวิตรันทดถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์โดยไม่ทราบผู้ใดเป็นพ่อเด็กถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ต.ต.สมชาติ เต็มเปี่ยม สารวัตรเวร สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุพบศพทารกบริเวณวัดน้อยใน ซอยชัยพฤกษ์ ถนนบรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

สภาพเพิ่งคลอดร่างกายสมบูรณ์ยังมีสายสะดือและรกติดอยู่ตามร่างกาย วางอยู่บนเสื้อยืดสีเหลือง และมีรอยเลือดหยดเป็นทาง ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบเลือดกองใหญ่อยู่บริเวณบันไดท่าน้ำของวัด

จากการสอบสวนนางบรรจง ชัยเจริญ อายุ 37 ปี อาชีพส่งน้ำแข็ง ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตนมาส่งน้ำแข็งที่ชุมชนวัดน้อยใน ก็พบทารกดังกล่าวถูกทิ้งไว้ โดยเด็กยังมีลมหายใจรวยริน แต่ไม่พบแม่ของเด็กแต่อย่างใด จึงพยายามเรียกให้คนมาช่วย ปรากฏว่าทารกเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เนื่องจากช่วงหลังที่มาส่งน้ำแข็งสังเกตเห็นว่า น.ส.หลินท้องโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในคืนนี้ น.ส.หลินอาจจะปวดท้องเนื่องจากครบกำหนดคลอด แต่ไม่รู้จะให้ใครช่วยจึงลงไปที่บันไดท่าน้ำของวัดเพื่อคลอดลูกเอง จนกระทั่งทารกเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านพระเอ็ม ซึ่งเป็นพระลูกวัดน้อยใน กล่าวว่า น.ส.บุษบาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในวัดมานานเป็นปีแล้ว และเห็นตั้งท้องโดยที่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร และที่ผ่านมาจะเห็นติดสารระเหย แต่ก็ยังพูดจารู้เรื่องดี และบางครั้งมีอาการเบลอเนื่องจากพิษของสารระเหย

เพราะคาดว่าแม่ของเด็กน่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล เนื่องจากมีอาการตกเลือดมาก กระทั่งต่อมา นางพะเยาว์ เฉยนิล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ชุมชนวัดน้อยใน

แม่ค้าขายอาหารตามสั่งในชุมชนดังกล่าว ออกมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าแม่ของเด็กคือ น.ส.บุษบา ชัยเกียรติยศ หรือ หลิน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/56 หมู่ 7 ชุมชนริมทางรถไฟ ซอยร่วมพัฒนา แขวงและเขตตลิ่งชัน หลังเกิดเหตุได้เข้ามาที่บ้านของตนเพื่อขอกางเกงใส่ เมื่อตนออกมาก็พบว่า น.ส.บุษบามีอาการตกเลือดมาก และอยู่ในอาการหวาดกลัวและขอหลบอยู่ในบ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเกลี้ยกล่อม ต่อมา น.ส.บุษบายอมออกมาจากบ้านของนางพะเยาว์ โดยมีอาการตกใจและขอให้คนไปช่วยตามพี่ชาย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากว่า น.ส.บุษบาอยู่ในสภาพร่างกายอ่อนเพลียเพราะเพิ่งคลอดบุตร และส่งศพทารกไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.บุษบา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เด็กไม่มีพ่อและไม่รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร

แต่ต่อมาพ่อแม่เลิกกัน ฝ่ายพ่อพยายามจะพา น.ส.บุษบาไปเลี้ยงที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ฝ่ายแม่ไม่ยอมจึงนำมาเลี้ยงเอง

กระทั่งหลายปีผ่านไป แม่ของ น.ส.บุษบาเสียชีวิต ทิ้งให้ น.ส.บุษบา สาวลูกครึ่งอยู่กับพ่อเลี้ยงและพี่ชายต่างบิดาที่ทำงานเป็นเทศกิจอยู่เขตบางกอกน้อย ต่อมา น.ส.บุษบาเกิดติดสารระเหย จนมีอาการทางประสาท ทำให้ น.ส.บุษบา อาจถูกข่มขืนจากกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมดมสารระเหยด้วยกันจนตั้งท้องโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กและคลอดลูกเองจนเสียชีวิต

เบื้องต้นแม่ของเด็กคือ น.ส.บุษบา โดยอาจจะเป็นคนสติไม่สมประกอบหลังจากที่คลอดลูกเองแล้วก็อาจจะเกิดความกลัว หรือตกใจ ก่อนจะนำเด็กมาวางไว้ใต้ต้นมะขามบริเวณหน้าโบสถ์ใกล้กับท่าน้ำ

ส่วนการคลอดนั้นเป็นไปได้ว่าคลอดบุตรที่ท่าน้ำแล้วก็นำขึ้นมาวางไว้ที่ดังกล่าว หรือไม่ก็คลอดที่ใต้ต้นมะขามแล้วนำเด็กไปล้างน้ำแล้วนำมาวางไว้ก่อนหลบหนีไปอยู่บ้านคนรู้จักกันซึ่งอาศัยอยู่ข้างวัดในชุมชนวัดน้อยใน

อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการชันสูตรอีกครั้ง ส่วน น.ส.บุษบา ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ขณะนี้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ศิริราชก่อนเพราะเสียเลือดมาก และหากตรวจสอบพบว่าสติไม่ดี เจ้าหน้าที่ก็จะส่งตัวไปบำบัดหรือส่งไปยังสถานสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือต่อไป



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก