ฆ่าโหดเศรษฐินี ทุบหัวยัดกระสอบ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ร.ต.ท.ทวัตไชยไชยวรรณ์ ร้อยเวร สภ.ย่อยปฐมพร อ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ศพคนถูกฆ่ายัดใส่กระสอบผ้าทิ้งไว้บริเวณหน้าศาลาที่พักผู้โดยสาร

ริมถนนเพชรเกษม หมู่ 9 ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ. ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สำราญ อุชุภาพ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.วิชิต ขำคชกรรณ สว.สส. แพทย์ เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ภ.จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสายชลชุมพร 
ที่เกิดเหตุหน้าศาลาทรงไทยที่พักผู้โดยสาร ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้น กทม. อยู่ห่างจากสภ.ย่อยปฐม-พร ประมาณ 50 เมตร พบกระสอบผ้าใบใหญ่หลากสีวางอยู่ 1 ใบ ภายในมีกลิ่นศพโชยออกมา

ภายในกระสอบพบศพหญิงสูงวัย ผิวขาว ถูกยัดนอนคุดคู้อยู่ในถุงดำซ้อนกันถึง 4 ถุง ผู้ตายนุ่งผ้าถุงสีเหลืองลายดอก สวมเสื้อเชิ้ตแขนสามส่วนสีน้ำตาลอ่อนลายดอก ข้อเท้าและข้อมือถูกมัดด้วยเชือกฟางสีฟ้า

ที่ปากมีเทปกาวสีน้ำตาลปิดทับหลายชั้น ลำคอสวมสร้อยสเตนเลสพร้อมพระ 1 องค์ ใส่ต่างหูเพชร 2 ข้าง ตรวจสอบพบบาดแผลถูกตีด้วยของ แข็งที่ศีรษะด้านขวาจนกะโหลกยุบ ส่วนศีรษะด้านซ้ายมีแผลแตกยาวประมาณ 3 ซม. คอหักหมุนได้รอบ ใบหน้าเขียวช้ำบวมปูด แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ ต่ำกว่า 18 ชั่วโมง  ต่อมาได้มีนายสุจินต์ บุษบรรณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 ถนนทวีสินค้า ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร เจ้า ของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทองมีบริการ พร้อมด้วยนางจันทนา ยลัญสัจจา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ถนนทวีสินค้า ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบ สวนเพื่อขอดูศพผู้ตาย

เนื่องจากสงสัยว่าเป็นนางละเมียด ยลัญสัจจา อายุ 80 ปี แม่ของนางจันทนา ที่หายออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจจึงพาไปดูศพที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เมื่อทั้ง 2 เห็นศพถึงกับปล่อยโฮ

โดยระบุว่าผู้ตายคือนางละเมียด แน่นอน พร้อมกันนี้นางจันทนายังนำรูปถ่าย ผู้ตายมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย  สอบสวนนางจันทนา ยลัญสัจจา ให้การว่า ปกติตนกับนางละเมียด ผู้เป็นแม่ จะอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 54 ถนนทวีสินค้า ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ตนได้ ออกจากบ้านเพื่อไปดูแลสวนปาล์มน้ำมันและสวนมังคุดในพื้นที่ ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร ปล่อยให้นางละเมียด ผู้ตายอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว กลับมาบ้านเวลา 13.00 น. พบประตูบ้านปิดล็อกกุญแจไว้ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าเห็นแม่เดินออกจากบ้านไป แต่ไม่รู้ว่าไปไหน
รอจนค่ำแม่ก็ยังไม่กลับบ้าน จึงชวนนายสุจินต์ บุษบรรณ มีศักดิ์เป็นหลานเขย ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร กระทั่งเจอศพแม่ถูกฆ่าตายดังกล่าว 

ด้าน พ.ต.ต.วิชิต ขำคชกรรณ สว.สส.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่านางละเมียด ผู้ตาย เป็นคนมีฐานะร่ำรวยระดับเศรษฐินี มีทรัพย์สินเป็นที่ดินมากมายมูลค่านับร้อยล้าน

นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของบ้านเช่านับ 100 ห้อง อยู่ในซอยตามี ถนนทวีสินค้า อ.เมืองชุมพร ผู้ตายมีลูกทั้งหมด 4 คน เป็นหญิง 3 คน ชาย 1 คน เท่าที่ทราบทรัพย์สินของผู้ตาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินยังไม่ได้มีการแบ่งให้ลูกคนใดคนหนึ่ง อาจทำให้มีปัญหาขัดแย้งกันภายในครอบครัว ส่วนประเด็นอื่นๆ เช่น ฆ่าชิงทรัพย์ ไม่น่าจะเป็น ไปได้ เพราะในวันเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้นำทรัพย์สินใดๆติดตัวไป ขณะนี้อยู่ระหว่างนำบุคคลใกล้ชิดมาสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสทางคดีต่อไป  ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายสมชัย ขุนเดื่อ อายุ 45 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 36 หมู่ 2 ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ลูกเขยของผู้ตาย ซึ่งเปิดร้านขายของชำเลขที่ 44/6 ถนนทวีสินค้า ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 30 เมตร มา สอบปากคำ   พร้อมกันนี้เข้าตรวจค้นบ้านพบเทปกาวแบบเดียวกับที่คนร้ายใช้ปิดปากนางละเมียดและเชือกฟางสีฟ้า รวมทั้งยึดรถปิกอัพนิสสัน ตอนเดียว สีดำ ทะเบียน ป-4766 ชุมพร ของนายสมชัย หลังตรวจพบมีคราบเลือดบริเวณกระบะท้าย ก่อนนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ภ.จ.ชุมพร ตรวจพิสูจน์  

ด้าน พ.ต.ต.วิชิต ขำคชกรรณ สว.สส.สภ.เมืองชุมพร กล่าวภายหลังสอบปากคำว่า จากการสอบสวนนายสมชัย ให้การปฏิเสธ แต่เนื่องจากตำรวจมีพยานและหลักฐานที่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็น

จึงต้องคุมตัวเอาไว้ก่อน ทั้งนี้ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า ก่อนที่นายสมชัยจะมาได้ นางดวงใจ ยลัญสัจจา ลูกสาวคนที่ 3 ของผู้ตายเป็นภรรยาก็ได้มีเมียอยู่แล้ว และยังไปๆมาๆ ต่อมานายสมชัยได้ขอเงินนางละเมียดไปดาวน์รถบรรทุก 10 ล้อ แต่ผู้ตายไม่ให้ เพราะเห็นว่านายสมชัยยังไม่ได้ตัดขาดจากเมียเก่า อีกทั้งก่อนเกิดเหตุนางดวงใจไม่อยู่ เนื่องจากป่วยไปรักษาตัวที่ กทม. โดยช่วงบ่ายมีพยานเห็นผู้ตายเดินไปที่ร้านค้าของลูกสาวที่นายสมชัยเปิดร้านขายของอยู่ตามลำพัง ก่อนหายตัวไป กระทั่งเจอศพถูกฆ่ายัดกระสอบผ้า อย่างไร ก็ตาม ขณะนี้คงต้องรอผลตรวจคราบเลือดที่รถกระบะยืนยันอีกครั้งว่าเป็นเลือดของผู้ตายหรือไม่

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์