สุดระทีก เครื่องบินตุรกีบินกระแทกรันเวย์ เครื่องหัก 3 ท่อน ที่เนเธออร์แลนด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 9 ราย บาดเจ็บกว่า 50 คน โชคดีเครื่องไม่ระเบิด ผู้โดยสารเผยนาทีระทึก คล้ายตกหลุมอากาศก่อนกระแทกภายใน 3-5 วินาที
สำนักข่าวรอยเตอร์ เอพี และเอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบินของสายการบินตุรกี พร้อมผู้โดยสาร 135 คน และลูกเรืออีก 8 คน ประสบอุบัติเหตุตกขณะพยายามลงจอดที่สนามสคีโพล ในนครอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยเหตุเกิดขณะที่นักบินพยายามนำเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน ทีเค 1951 บินมาจากนครอิสตันบุล ประเทศตุรกี มุ่งหน้าสู่นครอัมสเตอร์ดัม ลงจอดที่สนามบิน แต่เครื่องกลับกระแทกกับพื้นข้างๆ รันเวย์อย่างแรง ส่งผลให้เครื่องบินแยกออกเป็น 3 ท่อน คือท่อนหัว ท่อนกลาง และท่อนหาง หลังจากตกลงในทุ่ง ห่างจากรันเวย์ราวครึ่งกิโลเมตร โดยจุดที่ตกอยู่ใกล้กับถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข A9 ส่วนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง กระเด็นออกห่างจากตัวเครื่องบินราว 100 เมตร แต่ไม่มีรายงานว่าเกิดไฟลุกไหม้เครื่องบินหลังการตก และในบริเวณใกล้ๆกับจุดที่เครื่องบินตก ก็เป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน เจ้าหน้าที่บอกว่าเครื่องบิน ดูเหมือนจะบินมาไม่ถึงรันเวย์
นายคีแรน ดาลี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนการขนส่งทางอากาศของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า แม้ว่าการกระแทกจะทำให้เครื่องเกิดความเสียหาย แต่ก็น่าจะมีผู้รอดชีวิตเพราะไม่มีไฟไหม้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาวัสดุสำหรับสร้างเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดไฟไหม้ได้ดีขึ้น เบื้องต้นสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว 1 คน และบาดเจ็บ 20 คน ก่อนที่ในเวลาต่อมา นายบินาลี ยิลดิริม รัฐมนตรีคมนาคมตุรกี ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินของสายการบินตุรกีตกแต่อย่างใด มีเพียงรายงานผู้โดยสารจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่แน่นอน
สำหรับเที่ยวบิน ทีเค 1951นี้ ออกเดินทางจากสนามบินอะตาเติร์ก เมืองอิสตันบูลเมื่อเวลา 8 โมง 22 นาทีตามเวลาท้องถิ่น
โดยมีผู้โดยสารบนเครื่อง 135 คน และลูกเรืออีก 8 นาย แต่เจ้าหน้าที่สายการบินยืนยันว่า บนเครื่องมีผู้โดยสาร 127 คน และลูกเรือ 7 นาย อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมามีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงคมนาคมตุรกีเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้อย่างน้อย 9 คน บาดเจ็บกว่า 50 คน และสาหัสราว 25 คน ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่มีการระบุแน่ชัด
สำหรับสาเหตุของการตก กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ผู้โดยสารคนหนึ่งที่รอดชีวิตบอกว่า ที่ระดับความสูง 600 เมตร มีการประกาศว่าเครื่องบินกำลังจะลง
จากนั้นเครื่องบินก็ดิ่งลงมาในระยะที่ไกล คล้ายกับการตกหลุมอากาศ โดยเอาหางกระแทกพื้นก่อน จากนั้นเครื่องก็ไถลจากมอเตอร์เวย์ เข้ามาในทุ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดในเวลาที่รวดเร็วมากคือราว 3 ถึง 5 วินาทีเท่านั้น รายงานระบุว่า สนามบินสกิพโฮลแห่งนี้เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของยุโรป และหลังเกิดเหตุ มีการระงับเที่ยวบินที่จะบินขึ้นลงสนามบินแห่งนี้ทั้งหมดไว้ชั่วคราว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
