โจรใต้ซาดิส 2 วัน 8 ศพ!!

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 19 ก.ค. ร.ต.ท.โยธิน วรรณทวี ร้อยเวร สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้ง


มีเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่บ้านตันหยงนากอ หมู่ 3 ต.บาเจาะ จึงพร้อมด้วย พล.ต.อ.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ. อนุรุธ อิ่มอาบ ผกก. พ.ต.ท.สมพร โสะหาบ พงส. (สบ.3) เจ้าหน้าที่วิทยาการไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้านสายบาเจาะ-เขื่อนบางลาง บริเวณหน้ามัสยิดบ้านตันหยงนากอ พบศพชายไม่ทราบชื่อนอนตายใกล้กัน 2 ศพ ทั้งคู่อายุ 40 ปี ไว้หนวดเครา 1 คน ลักษณะรูปร่างหน้าตาเป็นคนทางภาคเหนือ หรือภาคอีสาน แต่ละศพถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่ศีรษะและหน้าอกหลายนัด ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน 1 หัว

สอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุทราบว่า


ผู้ตายทั้ง 2 เป็นพ่อค้าขายสินค้าเร่ เมื่อช่วงสายขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน เร่ขายบานประตูหน้าต่างสำเร็จ รูปให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.บาเจาะ กระทั่งเที่ยงเศษชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกัน 6 นัด จึงพากันไปดูพบว่าทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ส่วนรถกระบะและทรัพย์สินของผู้ตายหายไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายเป็นพวกอาร์เคเค ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายอยู่ในพื้นที่ เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในเขตดูแล จึงพาพรรคพวกไม่ต่ำกว่า 4 คน ขี่รถ จยย.ติดตามรถของผู้ตายแล้วเรียกให้หยุด ทำทีขอซื้อสินค้า เมื่อทั้งคู่เผลอจึงชักปืนจ่อยิงเสียชีวิต ก่อนขับรถกระบะของเหยื่อหลบหนีไป ต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือนายสมศักดิ์ วงศ์ชื่น อายุ 42 ปี และนายธีรพันธุ์ สายอ้าย อายุ 35 ปี เป็นชาวลำปางทั้งคู่ ส่วนรถกระบะของเหยื่อที่ถูกคนร้ายขโมยไป เป็นรถโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม 3884 ลำปาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามคืนมา เพราะเกรงว่าคนร้ายจะนำไปทำเป็น คาร์บอมบ์ ใช้ก่อเหตุถล่มเจ้าหน้าที่

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา


พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบช.ก. รองหัวหน้า ศปก.ตร.สน. สั่งการให้ พ.ต.ต.สุวิทย์ ลายเจียร สว.สส. สภ.อ.เมืองยะลา พร้อมชุดสายสืบนำหมายจับไปจับกุมนายอิรนัน หะยีตาเห อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 3 ต.ท่าสาป นักศึกษาวิชาศาสนาชั้น 10 ร.ร.ธรรมวิทยามูลนิธิยะลา ขณะเดินเข้าบ้าน พร้อมยึดนาฬิกาควอตซ์ ยี่ห้อคาสิโอ รุ่น 200 และ 201 รวม 10 เรือน ซึ่งเป็นนาฬิกาชนิดเดียวกันกับที่คนร้ายใช้เป็นส่วน ประกอบตั้งเวลาระเบิดแสวงเครื่อง หลังสืบทราบว่านายอิรนันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดสถานที่ราชการและร้านค้าหลายแห่งใน จ.ยะลา ระหว่างวันที่ 15-17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยนายอิรนันทำหน้าที่เป็นผู้หาซื้อนาฬิกาชนิดดังกล่าว นำไปให้แนวร่วมประกอบวัตถุระเบิด ซึ่งก่อนถูกจับนายอิรนันเพิ่งเดินทางไปซื้อนาฬิกาที่ตลาดหาดใหญ่กลับมา เบื้องต้นนายอิรนันให้การปฏิเสธ จึงคุมตัวไว้สอบสวนขยายผล

ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี เกิดเหตุรุนแรงไม่แพ้กัน


รายแรกเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.ค. พ.ต.อ.ถวัลย์ นคทราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกยิงในตลาดบ้านเกาะหม้อแกง หมู่ 6 ต.ท่ากำชำ ที่เกิดเหตุเป็นแผงขายของชำ พบเพียงรอยเลือด ส่วนคนถูกยิงถูกนำส่ง รพ.โคกโพธิ์ ชื่อนายถาวร กาฬแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 5 ต.ป่าบาง อ.เทพา จ.สงขลา ถูกยิงด้วยปืนพกเข้าลำตัว 2 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายถาวรนั่งขายของอยู่ในตลาด ปรากฏว่ามี 2 คนร้าย ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าร้าน แล้วชักปืนยิงใส่ 2 นัด ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป

อีกรายเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน


พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนสายปัตตานี-ยะลา หมู่ 7 ต.ปูยุด ที่เกิดเหตุพบรถเข็นบรรทุกไม้กวาดอยู่ริมถนน มีปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก ส่วนคนถูกยิงชื่อนายอนุชา สวาทพันธ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 9 ต.โนนผึ่ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยปืนขนาดดังกล่าวเข้าไหล่ขวาและขาซ้าย รวม 2 นัด ถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี โดยนายอนุชาเป็นพ่อค้าขายไม้กวาด ก่อนเกิดเหตุได้เข็นรถบรรทุกไม้กวาดออกเร่ขายตามหมู่บ้าน ปรากฏว่าถูก 2 คนร้าย ขี่รถ จยย.ตามหลังแล้วชักปืนยิงใส่ 5 นัด บาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายพยายามปรับเปลี่ยนแผนก่อเหตุ โดยลอบยิงพ่อค้าเพื่อสร้างสถานการณ์

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.


พ.ต.ท.นรัตน์ เทพเฉลิม รอง ผกก.สส. สภ.อ.มายอ รักษาการ รอง ผกก.สส. สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงหน้า ร.ร.อิสลามประชาสงเคราะห์ หมู่ 4 บ้านบือจะ ต.พิเทน ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือดใกล้กับรถ จยย. ทราบชื่อนายมะแอ เต๊ะหะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 6 ต.พิเทน ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าศีรษะ 1 นัด สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นตำรวจชุมชนสัมพันธ์ทุ่งยางแดง ก่อนเกิดเหตุขณะนั่งอยู่บนรถ จยย. เพื่อรอรับลูกที่โรงเรียนดังกล่าว ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ประกบแล้วชักปืนจ่อยิงศีรษะเสียชีวิตทันที ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นสถานการณ์ป่วนใต้

ขณะที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่บุกทลายแหล่งกบดานของกลุ่มแนวร่วมได้พร้อมของกลาง


โดยเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กว่า 150 นาย บุกจู่โจมเข้าตรวจค้น 2 หมู่บ้านเป้าหมายคือบ้านนาดา หมู่ 7 และบ้านสะโล หมู่ 5 ต.รือเสาะ ซึ่งเป็นแหล่งซ่องสุมกบดานและฝึกอาวุธของกองกำลังกลุ่มอาร์เคเค ยึดของกลางจำนวนมาก อาทิ ปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน วิทยุสื่อสาร 3 เครื่อง พร้อมเสาอากาศและแท่นชาร์จ ชุดทำความสะอาดปืน ยาและเวชภัณฑ์ ซิมการ์ดพร้อมโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ชุดลายพรางทหาร มีดปลายแหลม สายไฟ 1 ขด และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นแนวร่วม 13 คน ไปมอบให้ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.รือเสาะ สอบสวนขยายผลร่วมกับฝ่ายทหาร ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุป่วนใต้หรือไม่

ขณะที่ความพยายามในการแก้ไขปัญหายังคงเดินหน้าต่อไป


เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กอ.สสส.จชต. ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้นำศาสนาในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เพื่อขอความร่วมมือและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ ซึ่งในการพูดคุยครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง เนื่องจาก ผบ.ทบ.ต้องการพูดคุยกับผู้นำศาสนาเป็นการส่วนตัว และรับประทานอาหารร่วมกัน ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมอาการของครูจูหลิงในช่วงบ่าย

ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 11.20 น.


พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.สสส.จชต. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 ตัวแทนคณะครู นักเรียนจาก ร.ร.บ้านกูจิงลือปะ และตัวแทนชาวบ้านจากหมู่บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รวม 150 คน เดินทางเข้ามาเยี่ยมอาการครูจูหลิง ปงกันมูล ครู ร.ร.บ้านกูจิงลือปะ เหยื่อความรุนแรงโจรใต้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการมาเยี่ยมในโอกาสที่ครูจูหลิงเข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียู ของ รพ.สงขลานครินทร์ ครบ 60 วัน โดยมีนายสูน-นางคำมี ปงกันมูล พ่อ-แม่ และญาติของครูจูหลิงให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้เด็กๆได้มอบบัตรอวยพร พร้อมเขียนแผ่นป้ายให้กำลังใจครูจูหลิงด้วย ขณะที่อาการของครูจูหลิงยังคงทรงตัว

พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 กล่าวว่า


ในคดีที่คนร้ายทำร้ายครูจูหลิง ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานแวดล้อม พร้อมรวบรวมหลักฐานต่างๆ ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 58 คน จับกุมได้ 21 คน มอบตัว 9 คน ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้หญิง ทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ ขณะนี้หลายคนอยู่ระหว่างการหลบหนีไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งกดดันอย่างหนักเช่นกัน

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์