คุมพ่อโหด ทำแผนคดี ตื้บลูกสาว ยอมรับผิด

ตร.นำพ่อโหดทำร้ายลูกตายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านฮือเตรียมจะรุมประชาทัณฑ์ ตรวจสอบแล้วไม่พบดื่มสุรา หรือเสพยาเสพติด ชี้ทำไปด้วยความโมโหชั่ววูบ พร้อมส่งศพเด็กไปตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา ผ่าชันสูตรหาสาเหตุ พ่อโหดขอยอมรับโทษทุกอย่าง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

นำโดยพ.ต.ท. เจษฎา สวยสม สวญ.สภ.หนองขาม พ.ต.ท.วรกฤช ภาคการ สารวัตรเวร พ.ต.ต.เอนก บุตรอินทร์ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 10 นาย นำตัวนายเพิ่มพร คงคาศรี อายุ 31 ปี พ่อของด.ญ.เพ็ญพิกุล คงคาศรี อายุ 6 ขวบ ที่ถูกพ่อทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องแถวไม่มีเลขที่ ซอยชายสี่หมี่เกี๊ยว หมู่ 3 ต.บึง อ.ศรีราชา ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนในพื้นที่ต.บึง พากันมามุงดูกันจำนวนมาก และต่างตะโกนด่าสาปแช่งในการกระทำที่ทารุณโหดร้ายต่อลูกสาวจนเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันชาวบ้านไม่ให้เข้าไปทำร้ายร่างกายพ่อรายนี้

พ.ต.ท.เจษฎา กล่าวว่า สั่งการให้ทางพ.ต.ท.วรกฤช สารวัตรเวรเจ้าของคดีพ่อทำร้ายลูกจนเสียชีวิต เนื่องจากอวัยวะภายในบอบช้ำ

เพราะได้รับความกระทบกระเทือนและกรามหัก ให้นำศพของด.ญ.เพ็ญพิกุลส่งไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลชลบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าชันสูตรศพ เพื่อดูอวัยวะภายในร่างกายที่ถูกทำร้ายของผู้เป็นพ่อว่ามีส่วนใดบ้างที่เสียหายจนทำให้ถึงกับเสียชีวิต เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการนำตัวพ่อไปดำเนินคดี ซึ่งการทำร้ายลูกสาวตัวเองจนเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้เป็นพ่อไม่ได้ดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด เนื่องจากชุดสืบสวนนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดแล้วไม่พบ ซึ่งคงทำไปเพราะความเครียดและความโมโหชั่ววูบ ส่วนนายเพิ่มพรนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้และแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งทำไปเพราะเกิดความเครียดที่ภรรยาทิ้งไปทำงานที่กรุงเทพฯ และปล่อยให้เลี้ยงลูกสาวคนเดียวและบันดาลโทสะอย่างรุนแรง จึงทำลงไปในครั้งนี้

ด้านนายเพิ่มพร กล่าวว่า ลูกสาวกินไอติมแล้วหกเลอะในบ้านและยังอาเจียนเลอะบนพื้นอีก จึงให้ไปล้างปากในห้องน้ำ

เมื่อลูกสาวออกจากห้องน้ำมา จึงบันดาลโทสะกระโดดถีบที่ท้องของลูกสาว จนกระเด็นไปติดข้างฝาผนังปูนบ้าน แล้วตบอย่างแรงจนลูกสาวล้มลงไปที่พื้นแล้วแน่นิ่งไป แต่ไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียชีวิตครั้งนี้ เมื่อลูกสาวแน่นิ่งไปนานกว่า 20 นาที ไม่ลุกขึ้นมา จึงไปเขย่าตัว พบว่าลูกสาวตาเหลือก จึงรีบอุ้มลูกวิ่งไปหาเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้นำรถพาลูกสาวไปส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงกลางทางเห็นว่าลูกสาวไม่มีลมหายใจแล้ว จึงพยายามปั๊มหัวใจ แต่ลูกสาวยังไม่มีอาการตอบสนอง เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ลูกสาวก็ไม่ฟื้นขึ้นมา ตนรู้สึกเสียใจมากคงเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจึงทำลงไปในครั้งนี้ ซึ่งยอมรับผิดในการกระทำครั้งนี้ ขอยอมรับโทษทุกอย่าง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์