อ้างเป็นปลัดคลัง บุกวัดตุ๋น6แสน

พระราชสุทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร
 
แจ้งตร.โดนแก๊ง 18 มงกุฎ ชาย 3 หญิง 1 อ้างเป็นปลัดกระทรวงการคลัง ตุ๋นเงินจากบัญชีวัด 6 แสน ลวงจะร่วมสมทบอีก 4 แสนให้ครบล้านเพื่อสร้างซุ้มประตูวัด แต่สุดท้ายโดนเชิดหนีเหลือเงินติดบัญชีแค่ไม่กี่หมื่น ตร.สงสัยมีคนในร่วมด้วย เตรียมเรียกสอบพระ เณร กรรมการวัดสอบ พร้อมกับตรวจกล้องวงจรปิดธนาคารล่าตัว

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 ก.พ. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทองป้อง ร้อยเวร สภ.เมืองยโสธร
 
รับแจ้งจากพระราชสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเทพรังสี ต.หนองคู อ.เมือง จ.ยโสธร เจ้าคณะจังหวัดยโสธร ฝ่ายธรรมยุต ว่า ถูกแก๊ง 18 มงกุฎต้มตุ๋นหลอกเงินไป 600,000 บาท หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นนำกำลังเดินทางไปนมัสการและสอบปากคำพระราชสุทธาจารย์ ที่วัดเทพรังสี

จากการสอบสวนพระราชสุทธาจารย์ ให้การว่า
 
เมื่อต้นเดือนก.พ.มีกลุ่มคนแต่งกายภูมิฐาน 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ใช้รถยนต์โตโยต้า รุ่นอาวันซ่า สีดำ ทะเบียน 2159 กทม. มาหาที่วัด อ้างว่าทำงานอยู่กระทรวงการคลัง หนึ่งในนั้นอ้างว่าเป็นปลัดกระทรวงการคลัง ต้องการทำบุญสร้างประตู หรือซุ้มประตูทางเข้าวัด โดยออกอุบายว่ามีเงินอยู่ 400,000 บาท อยากให้ทางวัดร่วมสมทบ 600,000 บาท รวมเป็น 1,000,000 บาท ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดว่าจะมีแก๊งต้มตุ๋นมาหลอก จึงบอกไปว่าวัดมีเงินฝากอยู่ในธนาคารกรุงไทย สาขายโสธร จำนวน 600,000 บาท และจะร่วมสมทบด้วย หลังคุยวันนั้นแล้วทั้งหมดก็กลับไป โดยนัดมาพบอีกครั้งวันที่ 19 ก.พ.นี้

พระราชสุทธาจารย์ให้การอีกว่า
 
ต่อมาเวลา 10.00 น.วันที่ 19 ก.พ. ผู้ชายทั้ง 3 คนมาหาที่กุฏิ พร้อมทั้งนำสมุดบัญชีเงินฝากออกมาให้ดู ในบัญชีมีเงิน 400,000 บาท และขอให้อาตมาเอาสมุดฝากเงินของวัด พร้อมเซ็นชื่อในใบถอนเงิน เพื่อจะได้ถอนเงินจากบัญชีวัดนำเข้าฝากในคราวเดียวกัน ก่อนชักชวนนั่งรถไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขายโสธร จึงนั่งรถไปเพื่อเซ็นถอนเงิน 600,000 บาท จากนั้นส่งเงินยื่นให้ชายชื่อถนอม ไม่ทราบนามสกุล คนร้ายจัดการเอาเงินเข้าบัญชีแล้วเอาบัญชีมาโชว์มีเงินเพิ่มเป็น 1,000,000 บาท

เจ้าคณะจังหวัดยโสธรให้การต่อว่า

แก๊งต้มตุ๋นบอกว่าจะเบิกออกจากบัญชี แล้วโอนกลับมาไว้ในบัญชีของวัดเทพรังสี แต่ขอสมุดเงินฝากของวัดไว้เพื่ออัพเดตยอดเงิน แล้วจะนำมาคืนให้เวลา 16.00 น. เวลานั้นที่วัดจะมีงานฌาปนกิจศพ อาตมาจึงให้คนขับรถพากลับวัด รอจนงานเผาศพเสร็จก็ไม่เห็นบุคคลทั้ง 3 คนนำสมุดเงินฝากของวัดมาคืน คิดว่าโดนหลอกเอาเงินไปหมดแล้ว เลยรีบไปแจ้งธนาคารกรุงไทย สาขายโสธร เพื่อสอบถามยอดเงินฝากยังอยู่ครบทั้ง 600,000 บาทหรือไม่ ได้รับคำตอบจากธนาคารว่า มีเงินสดเหลืออยู่ในบัญชีเพียง 20,000 บาท จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

"อาตมาไม่นึกว่าจะมีพวกบาปหนามาหากินกับวัด อาตมาคงไม่สาปแช่งปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรม ทางด้านกฎหมายขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ขอให้วัดอื่นๆ ดูให้ดี หากมีพฤติกรรมเหมือนอาตมาโดนให้คิดว่าเป็นพวกแก๊งต้มตุ๋นแน่ๆ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้คงไม่มีใครทำบุญทีละมากๆ ขนาดนี้" พระราชสุทธาจารย์กล่าว

ด้านร.ต.อ.สมศักดิ์เปิดเผยว่า

ก่อนหน้านี้ทางวัดเทพรังสีมีโครงการสร้างซุ้มประตูโขง หรือซุ้มประตูทางเข้าวัดราคาหลักล้านบาท เพราะประตูโขงเก่าช่องทางเล็ก แต่ทุนทรัพย์ไม่พอ เจ้าคณะตั้งใจว่าหลังจัดงานบุญเดือนสี่แล้วจะได้เงินมาจัดสร้าง ประจวบเหมาะช่วงเวลาดังกล่าวมีแก๊งคนร้ายออกตระเวนหาวัดที่ต้องการสร้างโบสถ์ หรือซุ้มประตู ในพื้นที่ จ.ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร และอุบลราชธานี พอทราบข้อมูลว่าวัดเทพรังสีจะจัดสร้างประตูโขง จึงฉวยโอกาสเข้ามาตีสนิทเจ้าอาวาส โดยใช้วาทศิลป์คำพูดหว่านล้อมจนตายใจ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นที่อาจมีการสมรู้ร่วมคิดของคนในวัด โดยต้องตรวจสอบระบบการเงินของวัดอย่างละเอียดว่ามีกรรมการวัดคนใดร่วมลงชื่อเซ็นถอนเงิน เพราะตามปกติบัญชีวัดจะต้องเซ็นชื่อร่วมกันหลายคน ส่วนทะเบียนรถของคนร้ายตรวจสอบแล้วเป็นทะเบียนปลอม

ขณะที่พ.ต.ท.ปรีชา เนติวัชรเวช รอง ผกก.สส.สภ. เมืองยโสธร กล่าวว่า
 
จะเรียกคณะกรรมการวัดมาสอบปากคำ เพราะระดับเจ้าคณะจังหวัดพูดคุยเจรจาเรื่องเงินจำนวนมากขนาดนี้ แต่ไม่มีพระ สามเณร หรือกรรม การวัดร่วมฟังด้วย ทั้งๆ ที่การใช้เงินวัดทุกบาทกรรม การวัดหรือพระเลขานุการ จะต้องร่วมรับฟัง ส่วนเบาะแสของแก๊งคนร้ายทราบว่าอยู่ใน จ.ยโสธร เพราะลักษณะรูปพรรรณสัณฐานคนร้ายตรงกับแก๊งที่เคยมาต้มตุ๋นวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ยโสธร ทั้งนี้จะขอเทปจากกล้องวงจรปิดของธนาคารมาตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมต่อไป