แบ็กโฮกทม.สุดชุ่ย ทับฝรั่งหนุ่มสาวดับ สลดคาทางม้าลาย

"เสียชีวิต 2 ศพ"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.40 น. วานนี้ (18 ก.ค.) ร.ต.ต.สุรพล ใจห้าว พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งมีเหตุรถทับคนเสียชีวิต 2 ศพ ที่บริเวณเยื้องโรงแรมปริ๊นเซส ถนนหลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบฯ กทม. จึงเดินทางไปสอบสวนพร้อมผู้เกี่ยวข้องและมูลนิธิร่วมกตัญญู

พบรถขุดตักขนาดกลางหรือรถแบ็กโฮตักดิน สีส้ม สังกัดหน่วยงานกรุงเทพมหานคร เลขทะเบียน ตฉ 2484 กรุงเทพมหานคร จอดในช่องบัสเลน หันหัวมุ่งหน้าไปทางสะพานขาว ห่างท้ายรถไปเพียง 50 เมตร ตรงทางม้าลายคนข้ามถนน มีร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 2 ศพ นอนเกยก่ายทับกองกันอยู่ สภาพทั้งคู่แหลกเหลวสยดสยอง ศพแรกที่อยู่ด้านบนเป็นชายทราบชื่อนายแซม แกรีโทมัส อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ นอนคร่อมทับอยู่บนร่างศพผู้หญิงชาวต่างชาติ ทราบชื่อ น.ส.เฮนรี คาร์เซ่น อายุ 24 ปี สัญชาตินอร์เวย์ ข้างศพมีธงสีแดง ปลายด้ามสีเหลือง ที่ทางกรุงเทพมหานครจัดทำให้ผู้ใช้ทางม้าลายขอสัญญาณข้ามถนนบอกผู้ขับขี่รถที่สัญจรไปมาตกอยู่


"แบ็กโฮวิ่งสวน"


ในที่เกิดเหตุตำรวจพบนายสายชล อินทร์นอก อายุ 35 ปี คนขับรถแบ็กโฮ เป็นพนักงานกองจักรกลขนาดกลาง เจ้าหน้าที่กองช่างกรุงเทพมหานคร ยืนรอมอบตัว พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถคันดังกล่าวไปทำถนนข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณถนนราชดำเนิน หลังจากเลิกงานกำลังขับกลับไปเก็บไว้ที่ กทม.2 ย่านดินแดง โดยเปลี่ยนเส้นทางวิ่งจากถนนราชดำเนินนอก เนื่องจากการจราจรติดขัดมาก จึงมาใช้เส้นทางถนนหลานหลวงช่องบัสเลน มาถึงที่เกิดเหตุไม่เห็นผู้เสียชีวิตข้ามถนน จนกระทั่งขับเลยไปเพียงเล็กน้อย ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนว่าขับรถทับคนเสียชีวิต จึงจอดรถลงไปดูพบว่าทับร่างชาวต่างชาติไปถึง 2 ศพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเอกสารพบว่า นายสายชลไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถประเภท 3 มีเพียงใบขับขี่รถจักรยานยนต์เท่านั้น จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบสวนพยานเล่าว่า เห็นผู้ชายชาวต่างชาติ ใช้ธงสัญญาณถือขอทางข้ามอยู่บริเวณทางม้าลาย โดยไม่ได้ สังเกตทางด้านซ้ายมือช่องบัสเลนว่ามีรถแบ็กโฮวิ่งสวนมา จึงพุ่งชนร่างคนทั้งสองตายทับกองกันอยู่คาทางม้าลาย สำหรับศพของชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย ซึ่งน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ได้ประสานไปยังสถานทูตของผู้เสียชีวิตแล้ว โดยมอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งไปเก็บไว้ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี รอญาติมาติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญ กุศลตามธรรมเนียมต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์