ช่างกลขอขมา เหยื่อตื้บผิดตัว

มอบตัวแล้วโจ๋นักเรียนช่างกลโหด กระหน่ำฟันช่างซ่อมเครื่องจนบาดเจ็บสาหัส เหตุเพราะเข้าใจผิดเห็นสวมเสื้อช็อปสีเดียวกับโรงเรียนคู่อริ

เผยวันเกิดเหตุกลุ่มโรงเรียนคู่อรินั่งรถเมล์ผ่านมาแล้วตะโกนด่า เลยนั่งรถตามไปทันที่ป้ายรถเมล์ ไปพบเหยื่อโหดใส่เสื้อช็อปสีเหมือนคู่อริ ก็เข้ารุมทำร้ายทันที แต่พอเห็นหน้าอายุคราวพ่อถึงรู้ว่าผิดตัว หนีเตลิดไปหลายวันแล้วให้พ่อพาเข้ามอบตัว ตำรวจพาไปขอขมาเหยื่อโหด หนุ่มใหญ่ให้อภัยทุกอย่างยังห่วงใยสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ก.พ. พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ รับมอบตัวนายณรงค์ชัย เปี่ยมสุข อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปวช.3 โรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่งย่านธนบุรี

ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายประเสริม ระไวกลาง อายุ 45 ปี ช่างซ่อมบำรุงโรงงานอุ๋ยแอนด์วี สยามพลาสติก ย่านอ้อมใหญ่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ป้ายรถประจำทางหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาบางแค แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีนายเทียม เปี่ยมสุข อายุ 40 ปี อาชีพนักการภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรเกษม บิดาผู้ต้องหาเป็นผู้พาเข้ามอบตัว หลังจากนายณรงค์ชัยหนีไปหลังก่อเหตุ แต่ในที่สุดสำนึกผิดจึงติดต่อบิดาให้พาเข้ามอบตัว

นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีนักเรียนโรงเรียนช่างกลอีกแห่งหนึ่งย่านธนบุรี ที่เป็นคู่อริระหว่างสถาบันมาเป็นเวลานาน

นั่งรถโดยสารประจำทางผ่านหน้าโรงเรียนตน และตะโกนด่ารุ่นพี่ร่วมสถาบัน เป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจ รีบขึ้นรถโดยสารประจำทางอีกคันตามไป พร้อมเพื่อนอีก 4 คน และมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งนั่งรถแท็กซี่ตามมา นายณรงค์ชัยกล่าวอีกว่า เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เห็นนักเรียนโรงเรียนคู่อริยืนอยู่ 2 คน และนายประเสริมที่สวมเสื้อช็อปสีเดียวกัน นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ทำให้เข้าใจว่าเป็นนักเรียนกลุ่มคู่อริ จึงรีบลงจากรถไปไล่ตี โดยเด็กนักเรียนคู่อริทั้ง 2 คน ต่างรีบวิ่งหนี เหลือแต่นายประเสริมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเพียงคนเดียว จึงเข้าไปใช้ท่อนเหล็กปลายแหลมกระหน่ำฟันใส่ทันที แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นว่านายประเสริมไม่ใช่เด็กนักเรียนคู่อริ แต่เป็นคนทำงานอายุรุ่นพ่อ จึงรีบหลบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 101 ก่อนโทรศัพท์ไปหานายเทียม เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังพร้อมขอให้นำมามอบตัว เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนายณรงค์ชัยแต่อย่างใด และเสียใจมากในสิ่งที่เกิดขึ้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวนายณรงค์ชัย ไปพบนายประเสริม ที่ห้อง 408 ร.พ.บางไผ่ที่พักรักษาตัวอยู่

เมื่อไปถึงยังห้องพักดังกล่าว ได้ให้นายณรงค์ชัยขอขมานายประเสริม โดยนายณรงค์ชัยก้มลงกราบที่ตักของนายประเสริมทันที ด้วยใบหน้าที่สำนึกผิด พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ขอโทษที่ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น เป็นการเข้าใจผิด และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปจึงรีบเข้ามอบตัวและมาขอขมา

ด้านนายประเสริม ซึ่งอาการดีขึ้นและลุกขึ้นนั่งได้แล้ว กล่าวว่า ให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะเข้าใจดีว่ายังเป็นวัยรุ่นอยู่จึงเกิดความคึกคะนอง หลังจากรับโทษแล้วขอให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ตั้งใจศึกษาหาความรู้เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ต่อไป ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายณรงค์ชัยกลับไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สน.ภาษีเจริญ