โฉด! แก๊งทมิฬยิง สตท

ลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานที่ดินฉะเชิงเทรา 1 ในแก๊งทมิฬ


ที่ระเบิดกระสุนหมายสังหาร ส.ต.ท. วางแผนไปซื้ออาวุธปืนเถื่อน ได้รับบาดเจ็บปางตาย ผวาโดนวิสามัญ โร่มอบตัวแล้ว จงรัก สั่งเดินหน้าลากคอเพื่อนร่วมก๊วน ล่าหัวโจกแก๊งปล้นร้านทองห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ ลั่น! หากขัดขืนจัดการขั้นเฉียบขาดได้ทันที เตือนผู้ให้ที่พักพิงหรือพาหลบหนี มีสิทธิติดคุกกันถ้วนหน้า ส่วนอาการเหยื่อยังวิกฤติ อยู่ได้ด้วยออกซิเจน

จากกรณี ส.ต.ท.พัน เทียนทอง อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ งานสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา


พร้อมพวกได้วางแผนล่อซื้ออาวุธปืนเถื่อนจากแก๊งค้ายาเสพติดจากนายเอนก หรือหนิง พึ่งจินดา อายุ 32 ปี นายอาณัติ ทองกระจ่าง อายุ 25 ปี นาย สุเทพ หรือเล็ก ธูปหอม อายุ 20 ปี ที่บริเวณหน้าสถานีอานามัยตำบลโสธร บริเวณวัดชมโพคยาราม ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง หมู่ 1 ต.โสธร แล้วเกิดพลาดท่าถูกแก๊งคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ท้ายทอย กระสุนฝังในศีรษะอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ถูกนำมารักษาตัวที่ รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.


พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของ ส.ต.ท. พัน ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ชั้น 4 รพ.เมืองฉะเชิงเทรา จากนั้นได้เดินทางไปที่ห้องประชุม สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อสอบสวนปากคำนายอาณัต ทองกระจ่าง ลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา มีหน้าที่ถ่ายเอกสารให้กับสำนักงานและเป็น 1 ในแก๊งคนร้าย ที่ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้นำตัวนายอาณัติ พร้อมด้วยของกลางที่ยึดมาได้เป็นยาบ้า 400 เม็ด อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก ที่ยึดมาได้จากการล่อซื้อ อาวุธปืนยาวอัดลมอีก 1 กระบอก เงินสดที่ใช้ล่อซื้อ 61,000 บาท แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดยจากการสอบสวนนายอาณัติ


ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือยิง ส.ต.ท.พัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงแต่ในวันเกิดเหตุเดินทางมาเป็นเพื่อนกับกลุ่มคนร้าย ส่วนผู้ที่ลงมือยิงคือ นายเอนก หรือหนิง ส่วนอาวุธปืนยาวอัดลมที่พบในที่เกิดเหตุเป็นของตนเอง ทำขึ้นมาเพื่อใช้ยิงนกเท่านั้น และขณะเกิดเหตุได้วิ่งไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าหลังสถานีอนามัย จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงโทรศัพท์เรียกให้เพื่อนขี่รถ จยย. มารับหลบหนี จากนั้นพ่อได้ติดต่อขอให้มามอบตัว จึงได้ตัดสินใจให้พ่อช่วยประสานมอบตัวกับ พ.ต.ท.พีรศักดิ์ เกตุบุญลือ สว.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากเกรงว่าหากหลบหนีอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวจนพบและอาจถูกวิสามัญได้

ด้าน พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า


สำหรับคนร้ายที่อยู่ระหว่างการหลบหนี คาดว่าคงจะไม่ยอมให้จับกุมตัวได้ง่าย ๆ และคงจะต้องต่อสู้ ขัดขืนแน่ โดยเฉพาะนายเอนก หรือหนิง มีคดีอุกฉกรรจ์ติดตัว รวมทั้งเป็นคนร้ายปล้นทองห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ นำไปขายประเทศกัมพูชา แล้วส่งเงินมาให้เมียปลูกบ้าน แต่หากคนร้ายขัดขืนต่อสู้ระหว่างจับกุม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการขั้นเด็ดขาดได้ทันที พร้อมทั้งเตือนผู้ที่ให้การช่วยเหลือในการพาผู้ต้องหาหลบหนีหรือให้ที่พักพิง จะมีความผิดตามกฎหมายและจะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากไม่เข้ามอบตัว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว เพราะรู้ตัวหมดแล้ว

ขณะที่ นพ.วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผอ. รพ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวถึงอาการของ ส.ต.ท. พัน


ว่ากระสุนได้ตัดแกนสมอง ระบบหายใจไม่สามารถทำงานได้ สมองบวมลักษณะคล้ายกับ สมองได้ตายแล้ว ส่วนที่ยังทำงานอยู่ มีเพียงหัว ใจยังเต้นอยู่เท่านั้น จึงดูแลด้วยการให้น้ำ เพื่อให้ความดันหรือเลือดดีเป็นปกติ ส่วนความดันตกเป็นระยะ สำหรับหัวกระสุนที่ฝังใน จากการตรวจแล้วไม่สามารถผ่าออกมาได้ เนื่องจาก กระสุนเข้าที่ท้ายทอยด้านซ้ายแล้วไปตุงอยู่ที่กกหูด้านขวา ความหวังที่จะรอดชีวิตนั้นริบหรี่ อยู่ได้ด้วยออกซิเจนเท่านั้น.

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์